Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.
การทดลองมาร์ชแมลโลว์สแตนฟอร์ด
การทดลองมาร์ชแมลโลว์สแตนฟอร์ด เป็นการศึกษาถึงการให้ความพึงพอใจในภายหลัง การทดลองดังกล่าวดำเนินการในปี ค.ศ. 1972 โดยนักจิตวิทยา วอลเตอร์ มิสเชลจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ได้มีการจัดทำการทดลองในลักษณะดังกล่าวอีกหลายครั้งนับตั้งแต่นั้น และการศึกษาดั้งเดิมที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด "ได้รับการพิจารณาว่าเป็นหนึ่งในการทดลองด้านพฤติกรรมที่ประสบความสำเร็จที่สุด"
ในการศึกษา เด็กแต่ละคนจะได้รับมาร์ชแมลโลว์ ถ้าหากเด็กคนใดสามารถยับยั้งความอยากที่จะรับประทานมาร์ชแมลโลว์ได้ เด็กคนนั้นก็จะได้รับมาร์ชแมลโลว์เพิ่มเป็นสองชิ้นแทนที่จะเป็นชิ้นเดียว นักวิทยาศาสตร์ได้วิเคราะห์ถึงระยะเวลาที่เด็กแต่ละคนสามารถยับยั้งสิ่งล่อใจในการรับประทานมาร์ชแมลโลว์ได้ และความยับยั้งดังกล่าวมีผลกระทบอย่างไรต่อความสำเร็จในอนาคตของพวกเขา ผลการศึกษาได้ทำให้นักวิจัยมีความเข้าใจอย่างถ่องแท้ต่อจิตวิทยาการควบคุมตนเอง
การทดลองดั้งเดิม
จุดกำเนิด
การทดลองในลักษณะดังกล่าวมีที่มาจากการทดลองในลักษณะคล้ายกันในตรินิแดด ซึ่งมิสเชลได้ค้นพบว่ากลุ่มชาติพันธุ์ที่แตกต่างกันที่อาศัยอยู่บนเกาะมีสามัญทัศน์ที่ขัดแย้งกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การรับรู้ความประมาทเลินเล่อของผู้อื่น การควบคุมตนเองและความสามารถที่จะสนุกสนาน เขาได้ทำการทดลองในลักษณะที่คล้ายกับการทดลองมาร์ชแมลโลว์ หากแต่ใช้แท่งช็อกโกแลตแทน และค้นพบว่าลักษณะทางเชื้อชาติไม่มีผลกระทบต่อการให้ความพึงพอใจในภายหลังแต่อย่างใด ในขณะที่ภูมิหลังทางสังคมและเศรษฐกิจกลับเข้ามามีบทบาท
การทดลอง
จุดประสงค์ของการทดลองดั้งเดิม เพื่อทำความเข้าใจเมื่อเด็กมีพัฒนาการของการให้ความพึงพอใจในภายหลัง ซึ่งเป็นความสามารถที่จะรอเพื่อที่จะได้รับในสิ่งที่บุคคลหนึ่งต้องการ การทดลองดังกล่าวมีขึ้นในโรงเรียนอนุบาลบิง ในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด โดยใช้เด็กอายุระหว่างสี่ถึงหกปีเป็นตัวอย่าง เด็กจะถูกนำตัวเข้าไปในห้องโดยจัดไม่ให้มีสิ่งที่อาจทำให้เกิดความไขว้เขวทั้งสิ้น เด็กจะถูกถามให้เลือกระหว่างคุกกี้โอรีโอ มาร์ชแมลโลว์ หรือขนมปังเพรตเซลแท่ง ซึ่งจะถูกวางไว้บนโต๊ะข้างเก้าอี้ นักวิจัยบอกให้เด็กสามารถรับประทานมาร์ชแมลโลว์ได้ แต่ถ้าหากเด็กคนดังกล่าวสามารถอดทนรอไม่รับประทานได้เป็นเวลาสิบห้านาที เด็กคนนั้นจะได้รับรางวัลเป็นมาร์ชแมลโลว์อีกชิ้นหนึ่ง มิสเชลได้สังเกตว่าบางคน "ปิดตาของตัวเองด้วยมือหรือหมุนตัวไปทางอื่นเพื่อที่พวกเขาจะได้มองไม่เห็นถาดอาหาร ส่วนหนึ่งเริ่มต้นเตะโต๊ะ หรือดึงหางเปียของตัวเอง หรือสัมผัสมาร์ชแมลโลว์ราวกับว่ามันเป็นสัตว์สตัฟฟ์ตัวเล็ก ๆ" ในขณะที่มีส่วนน้อยที่กินมาร์ชแมลโลว์ในทันทีที่นักวิจัยได้จากไป
ผลการศึกษา
ขณะที่มีเด็กจำนวนน้อยที่รับประทานมาร์ชแมลโลว์ในทันที หนึ่งในสามของเด็กที่เข้าร่วมการทดลองทั้งสิ้น 600 คน สามารถอดทนได้นานพอที่จะได้รับมาร์ชแมลโลว์ชิ้นที่สอง การทดลองดังกล่าวได้ยืนยันข้อสันนิษฐานที่ว่าอายุสามารถชี้วัดพัฒนาการของการให้ความพึงพอใจในภายหลังได้
การทดลองในภายหลัง
ผลการทดลองในภายหลังที่เกิดขึ้นอีกหลายปีถัดมา ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่มิสเซล เนื่องจากบุตรสาวของมิสเชลทราบและเติบโตขึ้นพร้อมกับหนึ่งในเด็กกลุ่มทดลองดั้งเดิม โดยทราบจากการสนทนาโดยบังเอิญ มิสเซลได้ค้นพบว่ามีความสัมพันธ์กันที่ไม่คาดคิดมาก่อนเกิดขึ้นระหว่างผลการทดลองมาร์ชแมลโลว์ และความสำเร็จของเด็กในอีกหลายปีถัดมา การศึกษาในภายหลังครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1988 แสดงให้เห็นว่า "เด็กก่อนวัยเรียนผู้ซึ่งมีการให้ความพึงพอใจในภายหลังนานกว่าในกระบวนทัศน์ยับยั้งควบคุมตัวเอง ได้รับการอธิบายในอีกมากกว่า 10 ปีให้หลังโดยผู้ปกครองของพวกเขา ว่าเด็กเหล่านี้ได้กลายมาเป็นวัยรุ่นที่มีความสามารถอย่างมาก" การทดลองในภายหลังครั้งที่สองในปี ค.ศ. 1990 ได้แสดงให้เห็นว่าความสามารถของการให้ความพึงพอใจในภายหลังยังได้มีความสัมพันธ์กับคะแนนสอบ SAT ที่สูงขึ้นด้วย