Мы используем файлы cookie.
Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.
Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.
รายพระนามพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีความผิดปกติทางจิต
Другие языки:
รายพระนามพระมหากษัตริย์ที่ทรงมีความผิดปกติทางจิต
Подписчиков: 0, рейтинг: 0
นี้คือรายพระนามพระมหากษัตริย์ซึ่งนักประวัติศาสตร์ถือว่า เสียพระจริตในบางลักษณะ
ในหลาย ๆ กรณี เป็นเรื่องยากที่จะชี้ชัดว่า พระมหากษัตริย์ในอดีตพระองค์นั้น ๆ ทรงมีความผิดปกติทรงจิตจริงหรือไม่ เพราะพระองค์อาจเพียงมีพระจริยาวัตรนอกลู่นอกทาง หรือมีพระโรคทางพระกาย หรือนักประวัติศาสตร์เพียงรังเกียจเดียดฉันท์พระองค์
สมัยโบราณ
พระนามและเสวยราชย์ | พระราชสมภพ | สวรรคต | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|---|
พระเจ้าเนบูคัดเนซซาร์ที่ 2 แห่งบาบิโลน (Nebuchadnezzar II of Babylon) 605 ปีก่อนคริสตกาล - 562 ปีก่อนคริสตกาล |
ราว 634 ปีก่อนคริสตกาล | 562 ปีก่อนคริสตกาล พระชนมายุราว 72 พรรษา |
ทรงเสียพระจริตและมีสภาพความเป็นอยู่แบบสัตว์เดรัจฉานเป็นเวลา 7 ปี | |
พระเจ้าฮันติลีที่ 1 แห่งฮิตไทต์ (Hantili I of Hittites) ไม่ปรากฏปีที่ครองราชย์ |
ไม่ปรากฏหลักฐาน | ไม่ปรากฏหลักฐาน | มีพระอาการทางจิตที่หวาดระแวง |
จักรพรรดิโรมัน
พระนามและเสวยราชย์ | พระราชสมภพ | สวรรคต | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|---|
จักรพรรดิคาลิกูลา (Caligula) ค.ศ. 37 - ค.ศ. 41 |
31 สิงหาคม ค.ศ. 12 | 22 มกราคม ค.ศ. 41 พระชนมายุ 28 พรรษา |
นักประวัติศาสตร์ โจซีฟัสบันทึกอาการผิดปกติทางจิตของพระองค์ว่า พระราชอำนาจทำให้พระองค์เย่อหยิ่งและทรงคิดว่าพระองค์เองคือพระเจ้า | |
จักรพรรดิจัสตินที่ 2 (Justin II) ค.ศ. 565 - ค.ศ. 578 |
ราวค.ศ. 520 | 5 ตุลาคม ค.ศ. 578 พระชนมายุราว 58 พรรษา |
นักประวัติศาสตร์ จอห์นแห่งอีฟีซุสบันทึกอาการผิดปกติทางจิตของพระองค์ว่า ทรงถูกดึงไปตามพระราชวังด้วยราชบัลลังก์ที่ติดล้อและทรงเข้ากัดผู้ร่วมประชุมขณะที่ทรงเสด็จผ่าน ทรงสั่งให้เล่นดนตรีอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งพระราชวังเพื่อปลอบพระทัยที่บ้าคลั่งของพระองค์ |
คอลีฟะห์อิสลาม
พระนามและเสวยราชย์ | พระราชสมภพ | สวรรคต | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|---|
คอลีฟะห์แห่งราชวงศ์ฟาติมียะห์, อัล-ฮะกิม บิ-อะมีร์ อัลละห์ (Al-Hakim bi-Amr Allah) 13 ตุลาคม ค.ศ. 996 - 13 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1021 |
ค.ศ. 985 | ค.ศ. 1021 พระชนมายุ 36 พรรษา |
ทรงเป็นที่รู้จักในยุโรปในฐานะ คอลีฟะห์ผู้วิปลาส (the Mad Caliph) ตามคำบรรยายของฮันท์ จานิน นักประวัติศาสตร์ ได้กล่าวว่าทรงมีความโหดร้ายและบุคลิกที่แปลกจากปกติ โดยศัตรูของพระองค์มักจะเรียกพระองค์ว่า คอลีฟะห์ผู้วิปลาส ซึ่งถือว่าเป็นอคติที่มีต่อพระองค์ในมุมมองของนักประวัติศาสตร์บางคนและวรรณกรรมตะวันตกบางชิ้น โดยในทางหนึ่งทรงเป็นที่ยกย่องจากการที่ทรงทำให้ไคโรเป็นศูนย์กลางอารยธรรม | |
คอลีฟะห์แห่งจักรวรรดิออตโตมัน, สุลต่านอิบราฮิม (Sultan Ibrahim) 9 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1640 - 18 สิงหาคม ค.ศ. 1648 |
5 พฤศจิกายน ค.ศ. 1615 | 18 สิงหาคม ค.ศ. 1648 พระชนมายุ 33 พรรษา |
ทรงเป็นที่รู้จักในฐานะ อิบราฮิมผู้วิปลาส (Deli Ibrahim หรือ Mad Ibrahim) โดยนักประวัติศาสตร์ในศตวรรษที่ 20 จากพระอาการทางจิตของพระองค์ มีพระอาการทางจิตที่แปรปรวนและทรงเป็นหนึ่งในสุลต่านที่มีความโหดเหี้ยม ในรัชกาลทรงใช้เวลาในการสร้าง "ฮาเร็มแห่งความบริสุทธิ์" เพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศของพระองค์ แต่เมื่อทรงรู้ว่าหนึ่งในนางฮาเร็มทรยศพระองค์ จึงทรงจับนางในฮาเร็ม 280 คนโยนลงทะเลสาบและปล่อยให้จมน้ำตาย ครั้งหนึ่งทรงพิโรธของหึงหวงของพระมเหสีจึงทรงโยนพระราชโอรสลงในสระน้ำ แต่มีคนรับใช้ช่วยได้ทัน พระราชโอรสจึงรอดชีวิตและต่อมาทรงครองราชย์เป็น สุลต่านเมห์เหม็ดที่ 4 หลังจากที่พระราชบิดาถูกยึดพระราชอำนาจและถูกปลงพระชนม์ตามพระราชเสาวนีย์ของโคเซม สุลต่านพระอัยยิกา(พระราชมารดาในสุลต่านอิบราฮิม) การกระทำของพระราชบิดาทำให้ทรงมีรอยแผลเป็นบนหน้าผากตลอดพระชนม์ชีพ | |
คอลีฟะห์แห่งจักรวรรดิออตโตมัน, สุลต่านมูรัดที่ 5 (Sultan Murad V) 30 พฤษภาคม ค.ศ. 1876 - 31 สิงหาคม ค.ศ. 1876 |
21 กันยายน ค.ศ. 1840 | 29 สิงหาคม ค.ศ. 1904 พระชนมายุ 63 พรรษา |
ทรงเป็นสุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมันเพียง 93 วัน ก็ทรงถูกปลดออกจากราชบัลลังก์ซึ่งทรงถูกสงสัยว่ามีความผิดปกติทางจิต อย่างไรก็ตามฝ่ายตรงข้ามของพระองค์ได้ใช้โอกาสนี้ในการหยุดการดำเนินการปฏิรูปประชาธิปไตยของพระองค์ เป็นผลให้พระองค์ไม่สามารถพระราชทานรัฐธรรมนูญตามที่ฝ่ายสนับสนุนพระองค์ต้องการได้ |
พระมหากษัตริย์ยุโรป
พระนามและเสวยราชย์ | พระราชสมภพ | สวรรคต | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|---|
พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 6 แห่งฝรั่งเศส (King Charles VI of France) 16 กันยายน ค.ศ. 1380 - 21 ตุลาคม ค.ศ. 1422 |
3 ธันวาคม ค.ศ. 1368 | 21 ตุลาคม ค.ศ. 1422 พระชนมายุ 53 พรรษา |
ทรงเป็นที่รู้จักในฐานะ ชาร์ลส์ผู้เสียสติ (le Fol or le Fou หรือ the Mad)ในระหว่างสงครามทรงเชื่อว่าพระวรกายของพระองค์ทำมาจากแก้วและทรงปฏิเสธว่าพระองค์เองมีพระมเหสีและพระราชบุตรแล้ว นอกจากนี้ทรงทำร้ายคนรับใช้และทรงวิ่งจนหมดกำลังโดยทรงโอดครวญว่าทรงถูกคุมคามโดยศัตรู ถึงแม้ว่าจะมีพระสติบ้างแต่ไม่ทรงสามารถที่จะมีสมาธิในการตัดสินพระทัยทางการเมืองได้และพระราชอำนาจของพระองค์ได้สูญเสียไปให้แก่เจ้าชายสืบสายพระโลหิต ทำให้ฝรั่งเศสมีแต่ความวุ่นวายและความขัดแย้ง ความวิปลาสของพระองค์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มอำนาจต่างๆ | |
พระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ (King Henry VI of England) ครั้งที่ 1, 31 สิงหาคม ค.ศ. 1422 - 4 มีนาคม ค.ศ. 1461 ครั้งที่ 2, 30 ตุลาคม ค.ศ. 1470 - 11 เมษายน ค.ศ. 1471 |
6 ธันวาคม ค.ศ. 1421 | 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1471 พระชนมายุ 49 พรรษา |
พระองค์ทรงมีความเจ็บป่วยทางอารมณ์และจิตใจและกลายเป็นไม่ทรงรู้ถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบๆพระองค์อย่างสมบูรณ์ แม้ว่ามีการประสูติของเจ้าชายเอ็ดเวิร์ดพระราชโอรสและองค์รัชทายาทก็ไม่สามารถให้พระอาการทุเลาได้ พระเจ้าเฮนรีทรงได้รับการถ่ายทอดความวิปลาสทางพันธุกรรมมาจากพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 6 แห่งฝรั่งเศส พระอัยกาฝ่ายพระชนนี พระองค์ทรงถูกจองจำในหอคอยแห่งลอนดอนและเสด็จสวรรคตจากความเศร้าเมื่อทรงทราบข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระโอรสที่ทรงรบในยุทธการที่ทูกสบรี แต่ในความเป็นจริงทรงถูกปลงพระชนม์ | |
สมเด็จพระราชินีนาถฮวนนาแห่งคาสตีล, ลีออนและอารากอน (Queen Joanna of Castile, León and Aragon) ในคาสตีลและลีออน, 26 พฤศจิกายน ค.ศ. 1504 - 12 เมษายน ค.ศ. 1555 ในอารากอน, 23 เมษายน ค.ศ. 1516 - 12 เมษายน ค.ศ. 1555 |
6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1479 | 12 เมษายน ค.ศ. 1555 พระชนมายุ 75 พรรษา |
ทรงเป็นที่รู้จักในฐานะ ฮวนนาผู้วิปลาส (Juana La Loca หรือ Joanna the Mad) ทรงครองราชบัลลังก์คาสตีลมาเป็นเวลา 50 ปี ด้วยพระสติวิปลาสเกือบตลอดรัชกาลหลังจากพระเจ้าเฟลีเปที่ 1 แห่งคาสตีล พระสวามีเสด็จสวรรคต พระองค์ไม่ทรงยอมให้ฝังพระศพของพระสวามีและทรงนำโลงพระศพของพระสวามีตามเสด็จไปในทุกที่ของสเปน พระองค์ทรงถูกกักพระองค์ไว้จวบจนวาระสุดท้ายของพระชนม์ชีพ ยังมีการอภิปรายถึงว่าพระองค์ทรงถูกคุมขังโดยผู้ที่ต้องการควบคุมพระราชอำนาจของพระองค์ | |
พระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย (Tsar Ivan IV of Russia) 16 มกราคม ค.ศ. 1547 - 28 มีนาคม ค.ศ. 1584 |
25 สิงหาคม ค.ศ. 1530 | 28 มีนาคม ค.ศ. 1584 พระชนมายุ 53 พรรษา |
ทรงเป็นที่รู้จักในฐานะ อีวานผู้โหดร้าย นักประวัติศาสตร์ได้มีการเสนอถึงพระบุคลิกที่แตกต่างและซับซ้อนของพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 ว่าพระองค์ทรงเป็นผู้มีความเฉลียวฉลาดและมีศรัทธา แต่พระอารมณ์แปรปรวนและโกรธเกรี้ยวมีแน้วโน้มที่เกิดจากความผิดปกติทางจิต พระองค์ทรงทรมานและสังหารพระมเหสีและทรงทำร้าย ซาเรวิชอีวาน อีวาโนวิช พระโอรสและองค์รัชทายาทของพระองค์เองจนสิ้นพระชนม์ ซึ่งต่อมาทรงเสียพระทัยมาก การสิ้นพระชนม์ขององค์รัชทายาททำให้ราชบัลลังก์เปลี่ยนผ่านไปยัง ซาร์เฟโอดอร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย พระโอรสองค์สุดท้อง ผู้ทรงอ่อนแอและมีความพิการทางสติปัญญา ในรัชกาลของพระองค์แม้ว่าจะทรงปกครองอย่างโหดเหี้ยมแต่พระองค์ทรงวางรากฐานการปกครองด้วยการรวมอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลาง และพยายามทำให้รัสเซียเจริญก้าวหน้าด้วยการแสวงหาความเป็นตะวันตกให้แก่รัสเซีย | |
พระเจ้าซาร์เฟโอดอร์ที่ 1 แห่งรัสเซีย (Tsar Feodor I of Russia) 28 มีนาคม ค.ศ. 1584 - 16/17 มกราคม ค.ศ. 1598 |
31 พฤษภาคม ค.ศ. 1557 | 16/17 มกราคม ค.ศ. 1598 พระชนมายุ 40 พรรษา |
พระราชโอรสในพระเจ้าซาร์อีวานที่ 4 แห่งรัสเซีย ทรงเป็นที่โจษจันถึงพระสติที่วิปลาสและทรงเป็นที่รู้จักในฐานะ เฟโอดอร์ผู้สั่นระฆัง (Feodor the Bellringer) ทรงเสด็จไปยังที่ต่างๆด้วยศรัทธาอย่างแรงกล้าโดยการสั่นระฆังทั่วทุกโบสถ์ในรัสเซีย พระองค์ไม่สามารถปกครองได้จึงมอบภาระการบริหารราชการแผ่นดินทั้งหมดไปให้พระเทวัญ (พี่เขย) คือ บอริส โกดูนอฟซึ่งพระองค์ทรงเคารพและไว้วางพระราชหฤทัย และต่อมาเขาได้ประกาศตนเป็นพระเจ้าซาร์หลังการสวรรคตของพระเจ้าซาร์เฟโอดอร์ซึ่งไร้รัชทายาทและนำไปสู่สมัยแห่งความวุ่นวาย | |
จักรพรรดิรูดอล์ฟที่ 2 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ (Rudolf II, Holy Roman Emperor) 12 ตุลาคม ค.ศ. 1576 - 20 มกราคม ค.ศ. 1612 |
18 กรกฎาคม ค.ศ. 1552 | 20 มกราคม ค.ศ. 1612 พระชนมายุ 59 พรรษา |
พระอาการวิปลาสของพระองค์ปรากฏในรูปแบบของภาวะซึมเศร้า ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของพระราชวงศ์สายฮับส์บูร์ก และนับวันพระอาการก็ยิ่งเลวร้ายเมื่อมีพระชนมายุมากขึ้นและทำให้ทรงถอนตัวพระองค์เองออกจากโลกและกิจการราชการต่างๆ และนำไปสู่การประชวรด้วยโรคจิตเภท ทรงปฏิเสธที่จะสรงน้ำและทรงประทับท่ามกลางความสกปรกและสาเหตุของการเสด็จสวรรคตนั้นมาจากแผลที่เปื่อยฉีกขาด ในรัชกาลพระองค์ทรงเป็นผู้นำผู้ไม่มีประสิทธิภาพที่ความพลาดพลั้งนำไปสู่สงครามสามสิบปี แต่ก็ทรงเป็นผู้นิยมศิลปะการเล่นแร่แปรธาตุและการศึกษาที่ช่วยปูทางไปสู่การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ต่อมา |