โพรเจสเทอโรน

โพรเจสเทอโรน
ชื่อตาม IUPAC	(8S,9S,10R,13S,14S,17S)-17-acetyl-10,13-dimethyl-1,2,6,7,8,9,11,12,14,15,16,17-dodecahydrocyclopenta[a]phenanthren-3-one
ชื่ออื่น	P4; Pregnenedione; Pregn-4-ene-3,20-dione
เลขทะเบียน
เลขทะเบียน CAS	[57-83-0][CAS]
PubChem	5994
DrugBank	DB00396
KEGG	C00410
ChEBI	17026
SMILES	CC(=O)[C@H]1CC[C@@H]2[C@@]1(CC[C@H]3[C@H]2CCC4=CC(=O)CC[C@]34C)C
ChemSpider ID	5773
คุณสมบัติ
สูตรโมเลกุล	C21H30O2
มวลโมเลกุล	314.46 g mol−1
จุดหลอมเหลว	126
log P	4.04
Pharmacology
ATC code	G03DA04
ชีวปริมาณออกฤทธิ์	OMP: <10%
Routes of administration	By mouth, topical/transdermal, vaginal, intramuscular injection, subcutaneous injection, subcutaneous implant
Metabolism	Hepatic (CYP2C19, CYP3A4, CYP2C9, 5α-reductase, 3α-HSD, 17α-hydroxylase, 21-hydroxylase, 20α-HSD)
Elimination half-life	OMP: 16–18 hours IM: 22–26 hours SC: 13–18 hours
Elimination half-life	Renal
หากมิได้ระบุเป็นอื่น ข้อมูลข้างต้นนี้คือข้อมูลสาร ณ ภาวะมาตรฐานที่ 25 °C, 100 kPa
สถานีย่อย:เคมี

โพรเจสเทอโรน (อังกฤษ: progesterone, P4) เป็นสารสเตอรอยด์ที่ถูกสร้างขึ้นในร่างกายชนิดหนึ่ง จัดเป็นฮอร์โมนเพศในกลุ่มโพรเจสโทเจน มีบทบาทในการควบคุมรอบประจำเดือน การตั้งครรภ์ และการสร้างตัวอ่อน พบในมนุษย์และสัตว์ชนิดอื่นๆ ถือเป็นฮอร์โมนในกลุ่มโพรเจสโทเจนที่พบเป็นปริมาณมากที่สุดในร่างกาย เป็นสารตัวกลางที่สำคัญในกระบวนการสร้างและสลายสารสเตอรอยด์อื่นๆ ในร่างกาย รวมไปถึงฮอร์โมนเพศและคอร์ติโคสเตอรอยด์ และมีบทบาทสำคัญในการทำงานของสมองในฐานะนิวโรสเตอรอยด์อีกด้วย

นอกจากจะเป็นฮอร์โมนตามธรรมชาติแล้ว โพรเจสเทอโรนยังถูกนำมาใช้เป็นยาอีกด้วย เช่น ใช้ร่วมกันกับเอสโตรเจนเพื่อใช้เป็นยาคุมกำเนิด ลดโอกาสเกิดมะเร็งปากมดลูก ใช้รักษาภาวะหมดประจำเดือนทั้งตามธรรมชาติหรือที่เกิดจากการผ่าตัดเอารังไข่ออกจากมะเร็งหรือสาเหตุอื่นๆ โดยถูกนำมาใช้เป็นยาครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1934