Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.
โมลนูพิราเวียร์
ข้อมูลทางคลินิก | |
---|---|
ชื่ออื่น | MK-4482, EIDD-2801 |
กฏหมาย | |
สถานะตามกฏหมาย |
|
ตัวบ่งชี้ | |
| |
เลขทะเบียน CAS | |
PubChem CID | |
UNII | |
KEGG | |
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี | |
สูตร | C13H19N3O7 |
มวลต่อโมล | 329.31 |
แบบจำลอง 3D (JSmol) | |
| |
| |
โมลนูพิราเวียร์, อังกฤษ: Molnupiravir (รหัสการพัฒนา MK-4482 และ EIDD-2801) เป็นยาต้านไวรัสทดลองซึ่งออกฤทธิ์โดยการให้ทางปาก ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่ โดยเป็นโปร-ดรักของอนุพันธ์ของ เอ็น4-ไฮดรอกซีไซติดีน (N4-hydroxycytidine ของนิวคลีโอไซด์สังเคราะห์ และออกฤทธิ์ต้านไวรัสโดยการนำข้อผิดพลาดในการคัดลอกระหว่างการจำลองแบบของไวรัสอาร์เอ็นเอ นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นฤทธิ์ต่อต้านไวรัสโคโรนา เช่น ซาร์ส, เมอร์ส และ SARS-CoV-2
ยาดังกล่าวได้รับการพัฒนาที่มหาวิทยาลัยเอมอรี (Emory University) โดย บริษัทนวัตกรรมยา ไดร์ฟ (Drug Innovation Ventures at Emory; DRIVE) ของทางมหาวิทยาลัย จากนั้นถูกซื้อสิทธิ์โดยบริษัท ริดจ์แบ็ก ไบโอเทราพิวติกส์ (Ridgeback Biotherapeutics) ซึ่งตั้งอยู่ในไมอามี และได้ร่วมมือกับบริษัทเมอร์ค (Merck & Co.) ในการพัฒนายาต่อไป
ข้อวิจารณ์เรื่องความปลอดภัย
ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2563 การแจ้งเบาะแสโดย ริค ไบรท์ (Rick Bright) อดีตหัวหน้าสำนักงานวิจัยและพัฒนาชีวเวชภัณฑ์ชั้นสูงสหรัฐ (BARDA) เปิดเผยความกังวลเกี่ยวกับการจัดหาเงินทุนสำหรับการพัฒนาโมลนูพีราเวียร์ต่อไป เนื่องจากยาที่คล้ายคลึงกันพบว่ามีคุณสมบัติเป็นสารก่อกลายพันธุ์ (ทำลายดีเอ็นเอ) บริษัท (ที่ปิดตัวลงแล้ว) ฟาร์มาสเซ็ต (Pharmasset) ซึ่งตรวจสอบสารออกฤทธิ์ของยาได้ยกเลิกการตรวจสอบ แต่ข้อเรียกร้องเหล่านี้ถูกปฏิเสธโดยจอร์จ เพนเตอร์ (George Painter) ประธานบริหารของไดร์ฟ (DRIVE) โดยให้ข้อสังเกตว่าได้มีการเผยแพร่ผลศึกษาความเป็นพิษของโมลนูพิราเวียร์ และให้ข้อมูลแก่หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐและสหราชอาณาจักร ซึ่งอนุญาตให้มีการศึกษาด้านความปลอดภัยในมนุษย์เพื่อดำเนินการพัฒนาต่อในฤดูใบไม้ผลิปี พ.ศ. 2563 นอกจากนั้นบริษัท ไดร์ฟ และริดจ์แบ็ก ไบโอเทราพิวติกส์ ยังระบุว่าในอนาคตมีแผนที่จะศึกษาความปลอดภัยในสัตว์
โควิด-19
หลังจากพบว่ามีฤทธิ์ต่อต้านไวรัส SARS-CoV-2 ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2563 ได้มีการทดสอบโมลนูพิราเวียร์ในการศึกษาเบื้องต้นในมนุษย์เรื่อง "ความปลอดภัย, ความทนทานต่อยา และเภสัชจลนศาสตร์" ในอาสาสมัครที่มีสุขภาพดีในสหราชอาณาจักรและสหรัฐ ต่อมาในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 บริษัทริดจ์แบ็ก ไบโอเทราพิวติกส์ ประกาศว่าจะเริ่มต้นทดลองในระยะที่ 2 เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของยาในการรักษาโควิด-19 การทดลองสองครั้งของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและที่ไม่ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลในสหรัฐและสหราชอาณาจักรดำเนินการในเดือนกรกฎาคม ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2563 โดยที่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลทางการแพทย์ใด ๆ บริษัทเมอร์ค ซึ่งเป็นพันธมิตรกับริดจ์แบ็ก ไบโอเทราพิวติกส์ ในการพัฒนายาได้ประกาศความตั้งใจที่จะเริ่มการทดลองขั้นสุดท้ายของยาโมลนูพิราเวียร์ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2563 เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เมอร์คเริ่มการทดลองระยะที่ 2/3 เป็นเวลา 1 ปี โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ได้มีการเผยแพร่บทความซึ่งได้รับการตีพิมพ์ในวารสารเนเจอร์ เกี่ยวกับผลการศึกษาของการรักษาเฟร์ริตที่ติดเชื้อโควิด-19 ด้วยยาโมลนูพิราเวียร์ จากการศึกษาพบว่ายามีประสิทธิภาพ "เมื่อให้ทางปากกับเฟร์ริตที่ติดเชื้อ และป้องกันการแพร่กระจายของไวรัสระหว่างเฟร์ริตหลังจาก 24 ชั่วโมงภายหลังการให้ยา
ไวรัสตับอักเสบซี |
|
||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พิคอร์นาไวรัส | |||||||||
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ | |||||||||
หลายกลไก/ทั่วไป |
|
||||||||