Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.
การบันทึกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทางสูติศาสตร์
การบันทึกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทางสูติศาสตร์ | |
---|---|
การแทรกแซง | |
การบันทึกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทางสูติศาสตร์ของทารกในครรภ์อายุ 16 สัปดาห์ วงกลมขาวสว่างตรงกลาง-ขวาคือหัว โดยหน้าหันไปทางซ้าย ลักษณะมีหน้าผากที่ 10 นาฬิกา หูซ้ายอยู่ค่อนกลางที่ 7 นาฬิกา และมือขวาปิดตาที่ 9 นาฬิกา
| |
ICD-9-CM | 88.78 |
MeSH | D016216 |
OPS-301 code: | 3-032, 3-05d |
การบันทึกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงทางสูติศาสตร์เป็นการใช้การบันทึกด้วยคลื่นเสียงความถี่สูงในการตั้งครรภ์ ซึ่งใช้คลื่นเสียงสร้างภาพเรียลไทม์ของเอ็มบริโอหรือทารกในครรภ์ที่กำลังเจริญในมดลูก (ครรภ์) มารดา กระบวนการดังกล่าวเป็นส่วนมาตรฐานของการดูแลก่อนกำเนิดในหลายประเทศ เพราะให้สารสนเทศต่าง ๆ เกี่ยวกับสุขภาพของมารดา กำหนดเวลาและความคืบหน้าของการตั้งครรภ์ และสุขภาพและการเจริญของเอ็มบริโอหรือทารกใครรภ์
สมาคมคลื่นเสียงความถี่สูงในสูติศาสตร์และนรีเวชวิทยาระหว่างประเทศ (International Society of Ultrasound in Obstetrics and Gynecology) แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ทุกคนตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงทางสูติศาสตร์รูทีนระหว่างอายุครรภ์ 18 ถึง 22 สัปดาห์เพื่อยืนยันกำหนดเวลาการตั้งครรภ์ เพื่อวัดทารกในครรภ์เพื่อให้สามารถพบความผิดปกติการเจริญอย่างรวดเร็วต่อมาในการตั้งครรภ์ และเพื่อประเมินสภาพวิรูปแต่กำเนิดและการตั้งครรภ์บุตรหลายคน (คือ แฝด) นอกจากนี้ ISUOG แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงทางสูติศาสตร์ระหว่างอายุครภ์ 11 สัปดาห์ถึง 13 สัปดาห์ 6 วันในประเทศที่มีทรัพยากรพอทำ การตรวจบันทึด้วยคลื่นเสี่ยงความถี่สูงในระยะการตั้งครรภ์ต้นขนาดนี้สามารถยืนยันกำหนดเวลาของการตั้งครภ์ได้แม่นยำขึ้นและยังสามารถประเมินทารกในครรภ์หลายคนและความผิดปกติแต่กำเนิดสำคัญในขั้นต้น ๆ การวิจัยแสดงว่าคลื่นเสียงความถี่สูงทางสูติศาสตร์รูทีนก่อนอายุครรภ์ 24 สัปดาห์สามารถลดความเสี่ยงการไม่สามารถรู้การตั้งครรภ์บุตรหลายคนได้อย่างสำคัญและสามารเพิ่มการกำหนดวันการตั้งครรภ์เพื่อลดความเสี่ยงการชักนำการคลอดในการตั้งครรภ์เกินกำหนด ทว่า ไม่มีความแตกต่างในการเสียชีวิตปริกำเนิดหรือผลเสียสำหรับทารก
การใช้ทางการแพทย์
การตั้งครรภ์ช่วงต้น
สามารถเห็นถุงการตั้งครรภ์ (gestational sac) อย่างน่าเชื่อถือทางคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านช่องคลอดเมื่ออายุครรภ์ 5 สัปดาห์ (ประมาณ 3 สัปดาห์หลังตกไข่) ควรเห็นเอ็มบริโอเมื่อวัดขนาดถุงการตั้งครรภ์ได้ 20 มิลลิเมตร ตรงกับประมาณห้าสัปดาห์ครึ่ง ปกติเห็นหัวใจเต้นทางคลื่นเสียงความถี่สูงผ่านช่องคลอดเมื่อเอ็มบริโอวัดขนาดได้ 5 มิลลิเมตร แต่อาจมองไม่เห็นจนเอ็มบริโอมีขนาดถึง 7 มิลลิเมตร คือ อายุครรภ์ประมาณ 7 สัปดาห์ บังเอิญว่าการแท้งส่วนมากก็เกิดที่อายุครรภ์ 7 สัปดาห์เช่นกัน อัตราการแท้ง โดยเฉพาะการแท้งคุกคาม ลดลงอย่างสำคัญหากตรวจพบหัวใจเต้นปกติ
ไตรมาสแรก
ในไตรมาสแรก การตรวจคลื่นเสียงความถี่สูงมาตรฐานตรงแบบมี
- ขนาด ตำแหน่งและจำนวนถุงการตั้งครรภ์
- การระบุเอ็มบริโอและ/หรือถุงไข่แดง (yolk sac)
- การวัดความยาวทารกในครรภ์ (เรียก crown-rump length)
- จำนวนทารกในครรภ์ ซึ่งรวมจำนวนถุงเยื่อถุงน้ำคร่ำ (amnionic sac) และถุงคอเรียน (chorionic sac) สำหรับการตั้งครรภ์บุตรหลายคน
- กิจกรรมหัวใจของเอ็มบริโอ/ทารกในครรภ์
- การประเมินกายวิภาคของเอ็มบริโอ/ทารกใคนครรภ์ที่เหมาะสมกับไตรมาสแรก
- การประเมินมดลูก ท่อนำไข่ รังไข่และโครงสร้างแวดล้อมของมารดา
- การประเมินสันหลังคอ (nuchal fold) ของทารกในครรภ์ โดยพิจารณาการประเมินความใสหลังคอ (nuchal translucency) ของทารกในครรภ์
ไตรมาสที่สองและสาม
ในไตรมาสที่สอง การตรวจคลื่นเสี่ยงความถี่สูงมาตรฐานตรงแบบมี
- จำนวนทารกในครรภ์ ซึ่งรวมจำนวนถุงเยื่อถุงน้ำคร่ำและถุงคอเรียนสำหรับการตั้งครรภ์บุตรหลายคน
- กิจกรรมหัวใจของทารกในครรภ์
- ท่าของทารกในครรภ์เทียบกับมดลูกและปากมดลูก
- ตำแหน่งและลักษณะของรก ซึ่งรวมตำแหน่งของที่เกาะปลายสายสะดือเมื่อเป็นไปได้
- ปริมาตรน้ำคร่ำ
- การประเมินอายุครรภ์
- การประมาณน้ำหนักทารกในครรภ์
- การสำรวจกายวิภาคของทารกในครรภ์
- การประเมินมดลูก ท่อนำไข่ รังไข่และโครงสร้างแวดล้อมของมารดาตามความเหมาะสม