Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.
การวิจัยทางการพยาบาล
การวิจัยทางการพยาบาล (อังกฤษ: Nursing research) เป็นการวิจัยที่ให้หลักฐานใช้สำหรับสนับสนุนปฏิบัติการพยาบาล โดยการพยาบาล เป็นขอบเขตที่อิงหลักฐานของปฏิบัติการ ซึ่งได้รับการพัฒนาตั้งแต่ยุคของฟลอเรนซ์ ไนติงเกล มาจนถึงปัจจุบัน โดยมีพยาบาลเป็นจำนวนมากเป็นผู้ทำการวิจัยในมหาวิทยาลัย ตลอดจนในการกำหนดการบริการสุขภาพ
การศึกษาพยาบาลให้ความสำคัญต่อการใช้หลักฐานจากการวิจัยเพื่อที่จะหาเหตุผลสำหรับการจำแนกปฏิบัติทางการพยาบาล ในประเทศอังกฤษและประเทศเวลส์ ทางสภาอาจกำหนดให้พยาบาลกระทำอย่างสมเหตุสมผลก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าการแทรกแซงของพวกเธอจะได้รับการสนับสนุนโดยการวิจัยหรือไม่
การวิจัยทางการพยาบาลส่วนใหญ่อยู่ในสองขอบเขต ซึ่งได้แก่:
- การวิจัยเชิงปริมาณ ซึ่งอิงอยู่ในกระบวนทัศน์ของปฏิฐานนิยมเชิงตรรกะและจะเน้นกับผลสำหรับข่ายงานที่วัดได้ ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้สถิติ และมีวิธีการวิจัยที่โดดเด่นคือการวิจัยเชิงทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม
- การวิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งอิงอยู่ในกระบวนทัศน์ของทฤษฎีปรากฎการณ์นิยม, ทฤษฎีฐานราก, ชาติพันธุ์วิทยา และอื่น ๆ และตรวจสอบประสบการณ์ของผู้ทำการดูแลหรือได้รับมอบหมายทางพยาบาล การมุ่งเน้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งความหมายที่มีอยู่สำหรับแต่ละบุคคล วิธีการวิจัยที่ใช้กันมากที่สุดคือการสัมภาษณ์, กรณีศึกษา, การสนทนากลุ่ม และชาติพันธุ์วรรณนา
เมื่อเร็ว ๆ นี้ในสหราชอาณาจักร การวิจัยเชิงปฏิบัติการได้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นในวิชาการพยาบาล
การพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงานทางพยาบาลโดยใช้หลักฐานเชิงประจักษ์
ใน ค.ศ. 2008 องค์การเพื่อการวิจัยสุขภาพและคุณภาพ (เอเอชอาร์คิว) ได้สร้างนวัตกรรมแลกเปลี่ยนการดูแลสุขภาพเอเอชอาร์คิวสำหรับเอกสารและแบ่งปันแผนปรับปรุงคุณภาพการดูแลสุขภาพ ซึ่งรวมถึงนวัตกรรมการพยาบาลที่โดดเด่นหลายร้อยรูปแบบ แต่ละรูปแบบของการพยาบาลได้รับการบรรจุในการรวบรวมที่มีอันดับหลักฐาน ที่มีการประเมินความมั่นคงของความสัมพันธ์ระหว่างการปฏิบัติที่นำสิ่งใหม่เข้ามา กับผลที่ได้อธิบายไว้ในรายละเอียด
ดูเพิ่ม
- Hamer S. & Collinson G. (1999). Achieving Evidence-Based Practice. Ballière Tindall. ISBN 0-7020-2349-3.
- Parahoo K. (1997). Nursing Research: Principles, Process and Issues. Macmillan. ISBN 0-333-69918-1.