Мы используем файлы cookie.
Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.
ทิวากร วิถีตน
Другие языки:

ทิวากร วิถีตน

Подписчиков: 0, рейтинг: 0
ทิวากร วิถีตน
เกิด 31 ตุลาคม พ.ศ. 2518
จังหวัดขอนแก่น ประเทศไทย
การศึกษา วิศวกรรมศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
อาชีพ นักเคลื่อนไหว, เกษตรกร, วิศวกร
มีชื่อเสียงจาก การประท้วงด้วยเสื้อยืด "เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์"

ทิวากร วิถีตน (เกิด 31 ตุลาคม พ.ศ. 2518) เป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมืองและสิทธิมนุษยชน, เป็นเกษตรกรและวิศวกร เป็นนักเคลื่อนไหวคนแรกๆที่ออกมาทำกิจกรรมที่ท้าทายมากกับสิ่งต้องห้ามเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์โดยที่ยังอยู่ในประเทศไทย ซึ่งเขาได้เผยแพร่รูปที่เขาใส่เสื้อ "เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว"

เขาเชื้อเชิญให้ผู้คนใส่เสื้อแบบเขาเพราะไม่ได้ผิดกฎหมายมาตรา 112 ทำให้รูปของเขาเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ แต่หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรได้นำตัวเขาไปโรงพยาบาลจิตเวช ซึ่งกลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการประท้วงในประเทศไทย พ.ศ. 2563–2565 ระลอกสองที่เป็นการประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่รัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 ผู้ประท้วงได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวเขาจากโรงพยาบาล โดยการเคลื่อนไหวของเขาถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ยกระดับการชุมนุมขึ้นสำหรับการเมืองไทยในยุคปัจจุบัน และประชาไทได้ยกให้เขาเป็นบุคคลแห่งปี พ.ศ. 2563

ชีวิตในช่วงแรก

นายทิวากร เกิดเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2518 ณ ที่บ้านดอนช้าง ตำบลดอนช้าง อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ในปี พ.ศ. 2536 เข้าเรียนวิศวกรรมไฟฟ้า (เอกไฟฟ้าสื่อสารและคอมพิวเตอร์) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จบการศึกษาในปี พ.ศ. 2541 และเป็นวิศวกรอยู่ในบริษัทไอที

ต่อต้านการรัฐประหาร

ในปี พ.ศ. 2550 เขาตื่นรู้จากการรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2549 ที่ไม่ทำให้ประเทศพัฒนา จึงออกมาประท้วงร่วมกับกลุ่มคนวันเสาร์ไม่เอาเผด็จการ ที่นำโดยสุชาติ นาคบางไซ เขาได้มีส่วนร่วมในการต่อต้านเผด็จการที่กำลังก่อตัวขึ้นโดยเข้าร่วม 'แคมฟรอกราชดำเนิน' ที่สนทนาออนไลน์ ซึ่งต่อยอดมาจากกลุ่มราชดำเนินในเว็บบอร์ดพันทิพ

เขาได้เข้าร่วมการชุมนุมของแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ พ.ศ. 2553 และรอดชีวิตจากการสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ พ.ศ. 2553 เพราะไม่ได้อยู่แนวหน้าโดยโดนเพียงแก้สน้ำตา หลังจากนั้นได้เริ่มออกไปประท้วงกับกลุ่มวันอาทิตย์สีแดงซึ่งนำโดยสมบัติ บุญงามอนงค์ และสร้างกลุ่มแคมฟรอกชื่อ 'RedTalk' (ต่อมาเป็น 'FreedomTalk') เพื่อให้กลุ่มคนเสื้อแดงได้เข้ามาพูดคุยกัน

ปลายปี พ.ศ. 2553 เขาประกาศออกจากกลุ่มเสื้อแดงกับเพื่อนคนเสื้อแดง หนึ่งในนั้นคือกริชสุดา คุณะแสนหรือ'เปิ้ลสหายสุดซอย' และลาออกจากงาน พร้อมทั้งได้บริจาคเงินเพื่อสร้างสนามตะกร้อใต้สะพานพระราม 7

ในที่สุดรัฐประหารในประเทศไทย พ.ศ. 2557 ได้เกิดขึ้น เขาจึงกลับบ้านที่ขอนแก่นและหยุดกิจกรรมการเมืองเพื่อทำการเกษตร

การประท้วงโดยใส่เสื้อยืด

จดหมายเหตุ

ผมได้ใส่เสื้อตัวนี้แล้ว ถึงตายก็ไม่เสียดายชีวิตครับ "เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว" “หมดศรัทธา” ไม่ได้แปลว่า “ล้มเจ้า” "หมดศรัทธา" มันคือความรู้สึกที่อยู่ในใจ ที่มีต่ออะไรสักอย่าง ในทำนองเดียวกับ "หมดรัก", "หมดเยื่อใย", "หมดใจ", "หมดความไว้ใจ" มันเป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคน สามารถพูดและแสดงออกมาได้ ตราบใดที่คนที่พูดและแสดงออกไม่ได้ไปทำความเสียหายให้กับทรัพย์สิน ไม่ได้ไปทำร้ายร่างกายคนที่ยังศรัทธา และไม่ได้ทำผิดกฏหมายอย่างอื่น และสิ่งนั้น/คนนั้น(ที่ถูกศรัทธา) ต้องจำไว้ในใจให้จงหนักว่า เมื่อเขา "หมดศรัทธา" แล้ว ไม่มีทางที่จะทำให้เขากลับมาศรัทธา ด้วยวิธีการบังคับโดยใช้กำลังและความรุนแรง ได้โดยเด็ดขาด

-ทิวากร วิถีตน, พ.ศ. 2563

ในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2563 เขาได้โพสต์รูปบนเฟสบุคตัวเอง ซึ่งเป็นกระแสอย่างมากในโลกออนไลน์ ก่อนหน้านั้นเขาได้นำเสนอแนวคิดโดยการใช้สโลแกน 'เราหมดศรัทธาสถาบันกษัตริย์แล้ว' ในกลุ่มรอยัลลิสต์มาเก็ตเพลส ของปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ซึ่งผู้ใช้งานหลายคนได้กังวลเรื่องความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ไทย รูปของเขาได้รับคอมเมนต์กว่า 4,000 ข้อความ ซึ่งมาจากทุกฝ่ายการเมือง ส่วนสาเหตุในการกลับมาเคลื่อนไหวของเขานั้นเพราะสะเทือนใจจากเหตุการณ์วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ถูกอุ้มที่กัมพูชา

ในวันที่ 19 มิถุนายน และ 4 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่กอรมน.และตำรวจได้มาหาที่บ้านเพื่อพูดคุย

และวันที่ 5 กรกฎาคม เขาโพสต์สัญญาที่ทำให้ตัดขาดกับครอบครัวเพื่อความปลอดภัยของครอบครัว

ถูกคุกคามทางการเมืองโดยอ้างจิตเวช

ในวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 รถตำรวจและโรงพยาบาล 10 คัน มาจอดที่บ้านเขาในเวลาย่ำค่ำ กลุ่มตำรวจและพยาบาลเข้ามาในบ้านและใช้การบังคับให้ออกไปโดยใช้คนถึง 6 คนเพื่อส่งไปโรงพยาบาลจิตเวช ในรถพยาบาลเจ้าหน้าที่ได้มัดแขนเขาด้วยผ้า และฉีดยาไม่ทราบชนิดให้ หลังจากนั้นตำรวจได้ค้นบ้าน นำคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือไป พร้อมทั้งให้มารดาลงชื่อยินยอมให้นำตัวเข้าโรงพยาบาลจิตเวชขอนแก่นราชนครินทร์

โดยผู้อำนวยการโรงพยาบาล ณัฐกร จำปาทอง อ้างว่าเขาไม่ได้ถูกบังคับให้เข้าโรงพยาบาล ส่วนตำรวจท้องที่ พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น อ้างว่าเขาได้รับการรักษาเพราะญาติเป็นผู้ส่งให้รักษาเอง

หลังจากนั้น ได้มีการประท้วงโดยกลุ่มต่างๆ และจากการกดดันของสื่อจนได้รับการปล่อยตัวจากโรงพยาบาลในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เขาถูกคุมตัวเป็นเวลาทั้งหมด 13 วัน โดยไม่ได้เป็นโรคทางจิตแต่อย่างใดจากผลตรวจ

ดูเพิ่ม


Новое сообщение