Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.
น้ำมันลินซีด
น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์, น้ำมันแฟลกซ์, น้ำมันลินซีด หรือ น้ำมันเมล็ดฝ้าย (อังกฤษ: Linseed oil, flaxseed oil, flax oil) เป็นน้ำมันใสจนถึงออกเหลือง ที่ได้จากเมล็ดแฟลกซ์ (Linum usitatissimum) ซึ่งเป็นพืชวงศ์ลินิน (Linaceae) อันดับโนรา (Malpighiales) เมล็ดสามารถสกัดน้ำมันด้วยเครื่องสกัดกล (Expeller pressing) และบางครั้งตามสกัดด้วยตัวทำละลาย เป็นน้ำมันชักแห้งคือจะแข็งเมื่อถูกกับอากาศผ่านกระบวนการพอลิเมอไรเซชัน เพราะคุณสมบัตินี้ น้ำมันนี้อาจใช้โดยตนเองหรือผสมกับน้ำมันอื่น ๆ, กับยางไม้ หรือกับตัวทำละลาย ให้เป็นน้ำมันชักแห้งหรือน้ำมันขัดเงาเพื่อรักษาไม้ เป็นตัวผสานสารสีในสีน้ำมัน เป็นสารเพิ่มความเหลวหรือลดน้ำ (plasticizer) ในปูนอุดรอยรั่ว/สีโป๊ว/พัตตี และเพื่อผลิตเสื่อ/พรมน้ำมัน (linoleum) การใช้น้ำมันนี้ได้ลดลงภายในไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาเพราะการเกิดเรซินสังเคราะห์แบบ alkyd ซึ่งมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกันแต่เก่าเป็นสีเหลืองน้อยกว่า
น้ำมันนี้ทานได้ นิยมทานเป็นอาหารเสริมเพราะเป็นแหล่งกรดลิโนเลนิกอัลฟาซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมกา-3 ในยุโรปบางส่วน ใช้ทานกับมันฝรั่งและควาร์ก (เป็นผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวอย่างหนึ่ง) โดยจัดว่าเป็นของอร่อย มีรสจัด และเสริมรสของควาร์กที่ปกติจืด
คุณสมบัติทางเคมี
น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์เป็นไตรกลีเซอไรด์เหมือนกับไขมันอื่น ๆ แต่พิเศษตรงที่มีกรดลิโนเลนิกอัลฟาเป็นจำนวนมาก ซึ่งทำปฏิกิริยาพิเศษกับออกซิเจนในอากาศ น้ำมันปกติมีกรดไขมันรวมทั้ง
- กรดลิโนเลนิกอัลฟาซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่ 3 คู่ เป็นกรดไขมันโอเมกา-3 (51.9-55.2%)
- กรดไขมันอิ่มตัวคือ กรดปาลมิติก (7%) และ stearic acid (3.4-4.6%)
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่เดียว คือ กรดโอเลอิก (18.5-22.6%)
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่ 2 คู่ คือ กรดลิโนเลอิก เป็นกรดไขมันโอเมกา-6 (14.2-17%)
เพราะมีเอสเทอร์กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีพันธะคู่ 2 คู่และ 3 คู่ในอัตราสูง น้ำมันจึงเกิดปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันเมื่อถูกกับอากาศได้ง่าย ซึ่งเป็นการ "ชักแห้ง" คือจะแข็งตัว กระบวนการนี้อาจคายความร้อน จึงสร้างปัญหาอัคคีภัยในบางกรณี เพื่อไม่ให้แห้งเร็วเกิน ผลิตภัณฑ์จากน้ำมันแฟลกซ์/ลินซีด (เช่น สีน้ำมันเป็นต้น) ควรบรรจุในภาชนะที่ผนึกสนิท
เหมือนกับน้ำมันชักแห้งบางอย่าง น้ำมันนี้เรืองแสงในรังสีอัลตราไวโอเลตเมื่อเสื่อม
การใช้
การประยุกต์ใช้น้ำมันลินซีดโดยมากอาศัยคุณสมบัติชักแห้งของมัน คือวัสดุตอนแรกจะเหลวหรืออย่างน้อยก็อ่อน แต่หลังเวลาผ่านไปจะแข็งแต่ไม่เปราะ ความกันน้ำเพราะเป็นไฮโดรคาร์บอนก็เป็นประโยชน์ด้วย
เป็นสารผสานสี
น้ำมันลินซีดมักใช้เป็นสารส่งสีในสีน้ำมัน และเป็นสารอำนวยการทาสี เพราะทำให้สีน้ำมันเหลวขึ้น ใส และเงาวาว มีในรูปแบบต่าง ๆ รวมทั้งสกัดเย็น กลั่นกับแอลคาไล (alkali-refined) ฟอกแดด (sun-bleached) ตากแดดให้หนืด (sun-thickened) และกลายเป็นโพลิเมอร์ (polymerised, stand oil) การใช้สีน้ำมันก้าวหน้าอย่างสำคัญได้ก็เพราะเทคโนโลยีน้ำมันลินซีด
พัตตี
พัตตีติดตั้งกระจก ซึ่งดั้งเดิมเป็นผงชอล์กผสมกับน้ำมันลินซีด ใช้เพื่อติดตั้งและผนึกกระจกกับหน้าต่างไม้ จะแข็งภายใน 2-3 อาทิตย์ที่ใช้แล้วสามารถทา/พ่นสีทับได้ ความทนทานของมันมาจากคุณสมบัติชักแห้งของน้ำมันลินซีด
น้ำมันขัดเงา
เมื่อใช้เป็นน้ำมันขัดเงาสำหรับไม้ น้ำมันลินซีดแห้งช้า ๆ และหดตัวน้อยมากเมื่อแข็งตัว แต่ไม่ได้เคลือบผิวเหมือนกับน้ำมันวาร์นิช เพราะซึมเข้าไปในรูไม้ (อาจจะมองเห็นหรือไม่เห็น) เหลือแต่ผิวที่มัน ๆ ไม่ถึงกับเงาที่ยังแสดงอวดลายไม้ แม้จะเกิดรอยง่าย แต่ก็ซ่อมแซมได้ง่าย มีแต่การเคลือบขี้ผึ้งเท่านั้นที่อ่อนแอกว่า น้ำสามารถซึมผ่านเคลือบน้ำมันเพียงไม่กี่นาที และไอน้ำก็สามารถผ่านมันไปได้โดยเกือบไม่ติดขัดเลย
เครื่องเฟอร์นิเจอร์กลางแจ้ง (เช่นในสวน) ที่ทาน้ำมันลินซีดอาจขึ้นราได้ ไม้ที่ทาน้ำมันอาจออกสีเหลือง ๆ และน่าจะสีเข้มขึ้นตามอายุการใช้งาน เพราะมันเข้าไปในรูไม้ น้ำมันจะช่วยป้องกันไม้ไม่ให้เกิดรอยเนื่องจาแรงบีบอัดได้บ้าง
น้ำมันลินซีดใช้ขัดเงาด้ามปืนดั้งเดิม แต่จะทำให้เงามากอาจต้องใช้เวลาเป็นเดือน ๆ การเคลือบเงาด้วยน้ำมันหลายชั้นเป็นวิธีดั้งเดิมเพื่อป้องกันไม้วิลโลว์ดิบ (วงศ์สนุ่น) และไม้ตีคริกเกต เพื่อให้ไม้เหลือความชุ่มชื้นบ้าง ไม้คริกเกตใหม่จะเคลือบด้วยน้ำมันลินซีดแล้วตีให้ทั่ว (ด้วยลูกบอลเก่าหรือค้อนพิเศษ) เพื่อให้ทนยิ่งขึ้น น้ำมันลินซีดบ่อยครั้งยังใช้กับไม้คิวสำหรับบิลเลียดหรือพูล ใช้หล่อลื่นหรือป้องกันรีคอร์เดอร์ไม้ และใช้แทนเรซินสังเคราะห์เพื่อเคลือบกระดานโต้คลื่นไม้
อนึ่ง ช่างเครื่องดนตรีสาย (luthier) อาจใช้น้ำมันลินซีดเมื่อปรับปรุงซอมแซมกีตาร์ แมนโดลิน หรือแป้นวางนิ้วของเครื่องดนตรีสายอื่น ๆ คือ มักใช้น้ำมันแร่กลิ่นเลมอนเพื่อทำความสะอาด แล้วทาน้ำมันลินซีด (หรือน้ำมันชักแห้งอื่น ๆ) บาง ๆ เพื่อกันเปื้อนไม่ให้ไม้เสื่อมเร็ว
การชุบทอง
ในการชุบ/แปะทอง น้ำมันลินซีดต้มใช้เป็นสารกันซึม (sizing) โดยทาผิววัสดุที่จะแปะทอง (เช่น แผ่นหนัง ผ้าใบ ดินเผา เป็นต้น) เพราะมันทนกว่าสารกันซึมที่ทำผสมน้ำ ทำให้ผิวเรียบ และเหนียวพอในช่วง 12-24 ชม. แรกหลังทาเพื่อให้ติดทองแผ่นกับผิวได้ดี
เสื่อน้ำมัน (linoleum)
น้ำมันลินซีดใช้เพื่อประสานผงขี้เลื่อย ผงไม้ก๊อก หรือวัสดุเช่นกันอื่น ๆ เพื่อผลิตเสื่อน้ำมัน (linoleum) นักประดิษฐ์ชาวอังกฤษ (Frederick Walton) ได้ประดิษฐ์เสื่อน้ำมันขึ้นในปี 1860 (เรียกว่า linoleum หรือ lino) ซึ่งเป็นวัสดุปิดพื้นทั้งในบ้านและอุตสาหกรรมตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1870 จนถึง 1970 จนกระทั่งแทนด้วยกระเบื้องยางปูพื้น แต่หลังจากคริสต์ทศวรรษ 1990 เสื่อน้ำมันก็เริ่มนิยมอีก เพราะจัดว่าดีต่อสิ่งแวดล้อมยิ่งกว่า linoleum ให้ชื่อกับเทคนิคทำภาพพิมพ์คือ linocut (ภาพพิมพ์ยางแกะ) ซึ่งทำโดยแกะยางเป็นแบบที่ต้องการ ทาหมึก แล้วพิมพ์บนกระดาษหรือผ้า ผลที่ได้จะคล้ายกับภาพพิมพ์แกะไม้
อาหารและอาหารเสริม
น้ำมันลินซีดสกัดเย็นดิบ ที่บ่อยครั้งเรียกว่าน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์เมื่อใช้เป็นอาหาร ออกซิไดซ์และเหม็นหืนได้ง่ายถ้าไม่แช่เย็น และแม้เมื่อเก็บไว้ในที่เย็น คุณภาพสินค้าก็อยู่ได้เพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์ น้ำมันที่เหม็นควรทิ้ง ปัญหานี้เป็นเรื่องสำคัญทางพาณิชย์ จึงอาจเติมสารต้านอนุมูลอิสระเพื่อป้องกันการเหม็นหืน
น้ำมันทั่วไปไม่แนะนำให้ใช้ประกอบอาหาร แต่ก็มีงานศึกษาที่แสดงว่า กรดลิโนเลนิกอัลฟาเมื่อยังอยู่ในเมล็ดก็เสถียรพอใช้ประกอบอาหาร คือสามารถทนอุณหภูมิได้ 176.67 องศาเซลเซียสถึง 2 ชม.
น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์เกรดอาหารจะสกัดเย็นโดยไม่ใช้ตัวทำละลาย ทำในที่ปราศจากออกซิเจน และวางขายเป็นน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ที่ทานได้ (edible flaxseed oil) น้ำมันสดแช่เย็นที่ไม่ได้แปรรูปเพิ่มสามารถใช้เป็นอาหารเสริม เป็นอาหารพื้นเมืองของคนยุโรปบางกลุ่ม และจัดว่าเป็นของอร่อย มันมีระดับกรดไขมันโอเมกา-3 คือกรดลิโนเลนิกอัลฟา สูงสุดอย่างหนึ่งในบรรดาน้ำมันพืชทั้งหมด น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ปกติมีกรดลิโนเลนิกอัลฟา (ALA) (C18:3 n-3) ระหว่าง 52-63% ผู้เพาะพันธุ์พืชได้พัฒนาเมล็ดแฟลกซ์ทั้งที่มีกรด ALA สูงกว่า (70%) และที่มีกรดน้อยมาก (< 3%)
องค์การอาหารและยาสหรัฐให้สถานะ "ยอมรับโดยทั่วไปว่าปลอดภัย" (GRAS) สำหรับน้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ที่มีกรด ALA สูง
สารอาหาร
กรดไขมันปกติ | % | % (ยุโรป) |
---|---|---|
กรดปาลมิติก | 6.0 | 4.0-6.0 |
Stearic acid | 2.5 | 2.0-3.0 |
กรดอะราคิดิก | 0.5 | 0-0.5 |
Palmitoleic acid | - | 0-0.5 |
กรดโอเลอิก | 19.0 | 10.0-22.0 |
Eicosenoic acid | - | 0-0.6 |
กรดลิโนเลอิก | 24.1 | 12.0-18.0 |
กรดลิโนเลนิกอัลฟา | 47.4 | 56.0-71.0 |
อื่น ๆ | 0.5 | - |
ส่วนสภาแฟลกซ์แห่งแคนาดาระบุว่ามีสารอาหาร ต่อช้อนโต๊ะคือ 14 กรัม
- แคลอรี: 126 kcal
- ไขมันทั้งหมด: 14 กรัม
- กรดไขมันโอเมกา-3: 8 กรัม
- กรดไขมันโอเมกา-6: 2 กรัม
- กรดไขมันโอเมกา-9: 3 กรัม
น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ไม่มีโปรตีน คาร์โบไฮเดรต หรือใยอาหาร
การใช้อื่น ๆ
- ผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยง
- เพื่อดำรงสภาพ/รักษาจักรยาน เช่น เพื่อกันสนิมหรือเป็นน้ำมันหล่อลื่น
- ใช้ทำเครื่องประดับบ้าน/เครื่องใช้ เช่นในการแต่งคิ้ว
- ใช้ทาพื้นซึ่งทำด้วยดิน
- อาหารสัตว์
- น้ำมันหล่อลื่นในอุตสาหกรรม
- ใช้แต่งผลิตภัณฑ์หนัง
- ผ้าน้ำมัน
- ใช้กับเครื่องตรวจจับอนุภาค/เครื่องตรวจหารังสี
- สิ่งทอ
- ใช้รักษาไม้ (รวมทั้งเป็นสารออกฤทธิ์ในน้ำมันเดนิช)
- ใช้เคลือบภาชนะหุงต้มในครัว
น้ำมันลินซีดแปรรูป
น้ำมันสแตนด์ (stand oil)/น้ำมันลินซีดโพลีเมอร์
น้ำมันโพลีเมอร์ทำโดยให้ความร้อนแก่น้ำมันลินซีดใกล้ ๆ 300 °C เป็นเวลา 2-3 วัน ในที่ที่ไม่มีอากาศ ในสภาพเช่นนี้ เอสเตอร์ไขมันไม่อิ่มตัวมีพันธะคู่หลายคู่จะกลายเป็น diene (ไฮโดรคาร์บอนที่มีพันธะคาร์บอนคู่ 2 คู่) แล้วเกิดปฏิกิริยา Diels-Alder reaction ทำให้โซ่โพลีเมอร์เชื่อมเข้าด้วยกัน (crosslink) ผลิตผลที่เหนียวมากนี้ สามารถใช้เคลือบผิวที่เมื่อแห้งแล้วยืดหยุ่นได้ดีกว่าน้ำมันลินซีดเอง ผิวเคลือบที่ได้จากน้ำมันเช่นนี้จะกลายเป็นสีเหลืองน้อยกว่าเมื่อใช้น้ำมันลินซีด
แม้น้ำมันถั่วเหลืองก็แปรรูปผ่านกระบวนการเช่นนี้ได้เหมือนกัน แต่จะแปรรูปช้ากว่า แต่น้ำมันตังอิ๊ว (tung oil) จะแปรรูปได้เร็วกว่าภายในเวลาเป็นนาที ๆ ที่อุณหภูมิ 260 °C
น้ำมันลินซีดต้ม
น้ำมันลินซีดต้ม (boiled linseed oil) เป็นน้ำมันที่ผสมน้ำมันลินซีดดิบ น้ำมันลินซีดโพลีเมอร์ และสารทำแห้งโลหะ (ซึ่งเป็นตัวเร่งให้แห้ง) ในสมัยกลาง น้ำมันลินซีดจะต้มกับตะกั่วออกไซด์ (lead oxide, ตะกั่วเหลือง) กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า น้ำมันลินซีดต้ม ตะกั่วออกไซด์ที่เป็นแอลคาไลน์ จะโปรโหมตกระบวนการพอลิเมอไรเซชัน (คือการชักแห้ง) ของน้ำมันลินซีดเมื่อเกิดปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ และการให้ความร้อนจะช่วยให้แห้งเร็วขึ้น
น้ำมันลินซีดดิบ
น้ำมันลินซีดดิบก็คือน้ำมันเปล่า ๆ ที่ไม่ได้แปรรูป ไม่ได้เติมสารทำแห้งหรือทินเนอร์ ซึ่งโดยมากใช้เป็นอาหารสัตว์หรือทำเป็นน้ำมันต้ม มันไม่แข็งดีพอหรือเร็วพอเพื่อจัดเป็นน้ำมันชักแห้ง (drying oil) น้ำมันลินซีดดิบบ่อยครั้งใช้ทาไม้คริกเกตเพื่อเพิ่มแรงเสียดผิวซึ่งช่วยให้คุมลูกบอลได้ดีกว่า และยังใช้ทาสายพานหนังแบนเพื่อให้ลื่นน้อยลง
การติดไฟเอง
ผ้าขี้ริ้วชุ่มน้ำมันลินซีดวางเป็นกองจัดว่าเสี่ยงอัคคีภัยเพราะมันให้พื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับกระบวนการออกซิเดชันของน้ำมันซึ่งอาจเกิดเร็วมาก เป็นปฏิกิริยาคายความร้อน ซึ่งยิ่งเกิดเร็วยิ่งขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น เมื่อความร้อนที่สะสมเกินอัตราการระบายความร้อนสู่สิ่งแวดล้อม อุณหภูมิก็จะสูงขึ้นและอาจร้อนพอให้ผ้าขี้ริ้วติดไฟเอง
ในปี 1991 ตึก 38 ชั้นคือ One Meridian Plaza ในนครฟิลาเดลเฟียเสียหายอย่างรุนแรงโดยมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 3 ท่านเสียชีวิตในอัคคีภัยที่เชื่อว่าเกิดจากผ้าขี้ริ้วชุ่มน้ำมันลินซีด ต่อมาต้องทุบตึกทิ้ง เป็นตึกสูงเป็นอันดับ 3 ในโลกที่ถูกทำลายจนถึงปี 1999 และอันดับ 7 จนถึงปี 2006
แหล่งข้อมูลอื่น
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: น้ำมันลินซีด |
- Knight, William A.; Mende, William R. (2000). Staining and Finishing for Muzzleloading Gun Builders. privately published. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2013-05-30. สืบค้นเมื่อ 2019-01-04.
- "Linseed Oil" . Collier's New Encyclopedia. 1921.