พอลิเตตระฟลูออโรเอทิลีน
| พอลิเตตระฟลูออโรเอทิลีน | |
|---|---|
|
| |
|
| |
| ชื่อตาม IUPAC | Poly(1,1,2,2-tetrafluoroethylene) |
| ชื่ออื่น | Fluon, Poly(tetrafluoroethene), Poly(difluoromethylene), Poly(tetrafluoroethylene), teflon |
| เลขทะเบียน | |
| ตัวย่อ | PTFE |
| เลขทะเบียน CAS | [9002-84-0][CAS] |
| KEGG | D08974 |
| ChEBI | 53251 |
| ChemSpider ID | None |
| คุณสมบัติ | |
| สูตรเคมี | (C2F4)n |
| ความหนาแน่น | 2200 kg/m3 |
| จุดหลอมเหลว |
327 °C |
| การนำความร้อน | 0.25 W/(m·K) |
| ความอันตราย | |
| NFPA 704 | |
| หากมิได้ระบุเป็นอื่น ข้อมูลข้างต้นนี้คือข้อมูลสาร ณ ภาวะมาตรฐานที่ 25 °C, 100 kPa | |
| สถานีย่อย:เคมี | |
พอลิเตตระฟลูออโรเอทิลีน (อังกฤษ: Polytetrafluoroethylene; PTFE) หรือ เทฟลอน (Teflon; ชื่อทางการค้าของดูปองท์) เป็นฟลูออโรพอลิเมอร์สังเคราะห์ ซึ่งเป็นสารประกอบคาร์บอนและฟลูออรีนที่มีมวลโมเลกุลสูง มีคุณสมบัติเป็นของแข็งชนิดไฮโดรโฟบิก ทนอุณหภูมิที่สูงและต่ำได้ดี และเป็นหนึ่งในสารที่มีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานน้อยที่สุด
ในปี ค.ศ. 1938 PTFE ถูกค้นพบโดยบังเอิญ ขณะที่รอย พลันเกต (Roy Plunkett) นักเคมีของบริษัทดูปองท์กำลังทำการทดลองกับสารที่ใช้กับตู้เย็น ในปี ค.ศ. 1945 ดูปองท์จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสารนี้ในชื่อ เทฟลอน ต่อมาในปี ค.ศ. 1954 วิศวกรชาวฝรั่งเศสคนหนึ่งได้คิดค้นกระทะที่เคลือบด้วยเทฟลอนขึ้น และตั้งกิจการในชื่อ Tefal
นอกจากกระทะและอุปกรณ์ทำครัวแล้ว PTFE ยังใช้ในหลายรูปแบบ เช่น ใช้เป็นสารหล่อลื่น ใช้เป็นสีทาผนัง ไปจนถึงใช้ในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์และการบิน
กระบวนการผลิต
การผลิต PTFE อาจเป็นเรื่องยากและมีราคาแพง เนื่องจากมีอุณหภูมิหลอมเหลวสูง 327 °C (621 °F) ซึ่งสูงกว่าอุณหภูมิการสลายตัวเริ่มต้น 200 °C (392 °F) แม้เมื่อหลอมเหลว PTFE ก็ไม่ไหลเนื่องจากมีค่าความหนืดสูงมากความหนืดและจุดหลอมเหลวสามารถลดลงได้โดยการเพิ่มโคมอนอเมอร์จำนวนเล็กน้อย เช่น เพอร์ฟลูออโร (โพรพิลไวนิลอีเทอร์) และเฮกซะฟลูออโรโพรพิลีน (HFP) สารเหล่านี้ทำให้สายโซ่โมเลกุลของ PTFE ที่เป็นเส้นตรงสมบูรณ์กลายเป็นแบบมีกิ่งก้าน ซึ่งทำให้ความเป็นผลึกลดลง
PTFE บางส่วนผลิตขึ้นโดยการขึ้นรูปแบบเย็น ซึ่งเป็นรูปแบบหนึ่งของกระบวนการขึ้นรูปแบบกดอัด โดย PTFE แบบผงละเอียดจะถูกอัดในแม่พิมพ์ภายใต้แรงดันสูง (10–100 MPa) หลังจากระยะเวลาการจมตัวลง ซึ่งกินเวลาตั้งแต่นาทีจนถึงวัน แม่พิมพ์จะถูกให้ความร้อนที่อุณหภูมิ 360 ถึง 380 °C (680 ถึง 716 °F) เพื่อให้อนุภาคละเอียดสามารถหลอมรวม (ซินเตอร์) เป็นมวลเดียวได้
แหล่งข้อมูลอื่น
สื่อที่เกี่ยวข้องที่วิกิคอมมอนส์: