Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลัน ชนิดไมอิลอยด์ (Acute myeloid leukemia) | |
---|---|
ชื่ออื่น | Acute myelogenous leukemia, acute nonlymphocytic leukemia (ANLL), acute myeloblastic leukemia, acute granulocytic leukemia |
ภาพจากการย้อมสีไขกระดูกที่ได้จากการเจาะดูดไขกระดูกแสดงให้เห็นลักษณะของเซลล์ไขกระดูกของผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์ ศรชี้แสดงให้เห็นอาวเออร์ ร็อด (Auer rod) | |
สาขาวิชา | Hematology, oncology |
อาการ | Feeling tired, shortness of breath, easy bruising and bleeding, increased risk of infection |
การตั้งต้น | All ages, most frequently ~65–75 years old |
ปัจจัยเสี่ยง | Smoking, previous chemotherapy or radiation therapy, myelodysplastic syndrome, benzene |
วิธีวินิจฉัย | Bone marrow aspiration, blood test |
การรักษา | Chemotherapy, radiation therapy, stem cell transplant |
พยากรณ์โรค | Five-year survival ~29% (US, 2017) |
ความชุก | 1 million (2015) |
การเสียชีวิต | 147,100 (2015) |
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์ (อังกฤษ: Acute myeloid leukemia, acute myelogenous leukemia, AML) เป็นมะเร็งชนิดหนึ่งซึ่งเกิดกับเซลล์เม็ดเลือดในสายไมอิลอยด์ มีลักษณะเฉพาะของโรคคือมีการเจริญอย่างรวดเร็วผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือดขาวที่ผิดปกติ สะสมในไขกระดูกจนรบกวนการเจริญของเซลล์เม็ดเลือดปกติ มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดที่พบบ่อยที่สุดในผู้ใหญ่ และมีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้นตามช่วงอายุ แม้มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์จะเป็นโรคที่ค่อนข้างพบน้อยโดยนับเป็น 1.2% ของการตายจากมะเร็งในประเทศสหรัฐอเมริกาก็ตาม อุบัติการณ์ของโรคนี้มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นจากการที่ประชากรมีอายุยืนยาวขึ้น
อาการของมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์เกิดจากการที่เซลล์ในไขกระดูกถูกแทนที่โดยเซลล์มะเร็งเม็ดเลือด ซึ่งทำให้ร่างกายมีจำนวน เม็ดเลือดแดง เกล็ดเลือด และเม็ดเลือดขาวปกติน้อยลง อาการเหล่านี้เช่น อาการอ่อนเพลีย หายใจเหนื่อย เลือดออกง่าย มีจ้ำตามตัวง่าย ติดเชื้อง่าย ถึงแม้จะมีการค้นพบปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์แล้วหลายอย่างก็ตามแต่สาเหตุที่แท้จริงของโรคนั้นยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด และเช่นเดียวกันกับมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดอื่นๆ มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์จะมีการดำเนินโรคที่รวดเร็วและทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตได้ภายในเวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนหากไม่ได้รับการรักษา
มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์มีอยู่หลายชนิด แต่ละชนิดมีวิธีการรักษาและพยากรณ์โรคแตกต่างกัน อัตรารอดชีวิตที่ห้าปีมีตั้งแต่ 15-70% และอัตราการกลับเป็นซ้ำมีตั้งแต่ 78-33% แล้วแต่ชนิด การรักษามะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์ในระยะแรกนั้นใช้การรักษาด้วยเคมีบำบัดโดยมุ่งเหนี่ยวนำให้โรคสงบ โดยผู้ป่วยอาจต้องได้รับเคมีบำบัดเพิ่มเติมหรือต้องได้รับการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดโลหิตในไขกระดูก งานวิจัยใหม่ๆ ทางด้านพันธุศาสตร์เกี่ยวกับโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์ทำให้มีการทดสอบที่สามารถทำนายได้ว่ายาชนิดใดจะได้ผลดีกับผู้ป่วยรายใดโดยเฉพาะ และยังทำให้ทราบได้ว่าผู้ป่วยมีโอกาสรอดชีวิตมากเท่าใดอีกด้วย
การจำแนกประเภท
ระบการจำแนกประเภทของมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์ที่นิยมใช้มีอยู่สองระบบ คือระบบเก่าของฝรั่งเศส-อเมริกัน-อังกฤษ (French-American-British, FAB) และระบบใหม่ขององค์การอนามัยโลก
ระบบการจำแนกประเภทขององค์การอนามัยโลก
ระบบการจำแนกประเภทมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์ขององค์การอนามัยโลกถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นระบบการจำแนกประเภทที่มีประโยชน์ทางคลินิกและให้ข้อมูลด้านพยากรณ์โรคที่เป็นประโยชน์มากกว่าระบบการจำแนกประเภทของฝรั่งเศส-อเมริกัน-อังกฤษ แต่ละประเภทตามที่จำแนกไว้
ระบบการจำแนกประเภทแบบฝรั่งเศส-อเมริกัน-อังกฤษ
ระบบการจำแนกประเภทแบบฝรั่งเศส-อเมริกัน-อังกฤษได้แบ่งโรคออกเป็นชนิดย่อย 8 ชนิด ตั้งแต่ M0 ถึง M7 ตามชนิดและระยะการเจริญของเซลล์ที่เจริญขึ้นเป็นมะเร็งเม็ดเลือด ทำได้โดยตรวจเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดด้วยกล้องจุลทรรศน์และ/หรือตรวจด้วยวิธีการทางเซลล์พันธุศาสตร์เพื่อหาความผิดปกติทางโครโมโซมของเซลล์ ชนิดย่อยแต่ละชนิดมีพยากรณ์โรคและการตอบสนองต่อการรักษาแตกต่างกันไป แม้ระบบการจำแนกประเภทขององค์การอนามัยโลกจะให้ประโยชน์ทางคลินิกมากกว่าแต่ระบบการจำแนกประเภทแบบฝรั่งเศส-อเมริกัน-อังกฤษก็ยังเป็นที่นิยมใช้ทั่วไป
Type | Name | Cytogenetics |
---|---|---|
M0 | minimally differentiated acute myeloblastic leukemia | |
M1 | acute myeloblastic leukemia, without maturation | |
M2 | acute myeloblastic leukemia, with granulocytic maturation | t(8;21)(q22;q22), t(6;9) |
M3 | promyelocytic, or acute promyelocytic leukemia (APL) | t(15;17) |
M4 | acute myelomonocytic leukemia | inv(16)(p13q22), del(16q) |
M4eo | myelomonocytic together with bone marrow eosinophilia | inv(16), t(16;16) |
M5 | acute monoblastic leukemia (M5a) or acute monocytic leukemia (M5b) | del (11q), t(9;11), t(11;19) |
M6 | acute erythroid leukemias, including erythroleukemia (M6a) and very rare pure erythroid leukemia (M6b) | |
M7 | acute megakaryoblastic leukemia | t(1;22) |
M8 | acute basophilic leukemia |
ฟีโนทัยป์ที่พบน้อยของมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดไมอิลอยด์
อาการและอาการแสดง
อาการและอาการแสดงส่วนใหญ่ของมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์เกิดจากการที่เม็ดเลือดปกติถูกแทนที่ด้วยเซลล์มะเร็งเม็ดเลือด การที่ผู้ป่วยมีจำนวนเม็ดเลือดขาวปกติน้อยลงทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย โดยที่แม้เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาวจะเจริญมาจากเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดเลือดขาวแต่เซลล์เหล่านี้ก็ไม่มีความสามารถในการต่อสู้กับเชื้อโรคเหมือนเซลล์เม็ดเลือดขาวปกติ อาการซีดที่เกิดจากการที่มีจำนวนเซลล์เม็ดเลือดแดงน้อยลงสามารถทำให้ผู้ป่วยมีอาการอ่อนเพลีย ซีด และหายใจลำบากได้ การขาดเกล็ดเลือดสามารถทำให้ผู้ป่วยมีรอยจ้ำตามตัวหรือเลือดออกได้ง่ายเมื่อบาดเจ็บเล็กน้อย
ส่วนใหญ่อาการแสดงในช่วงแรกของมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์เป็นอาการทั่วๆ ไปที่ไม่มีความจำเพาะต่อโรคใดโรคหนึ่งเป็นพิเศษ อาการอาจแทบไม่ต่างกับอาการของผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่หรือโรคอื่นทั่วๆ ไป อาการทั่วๆ ไปเหล่านี้ เช่น ไข้ อ่อนเพลีย น้ำหนักลด เบื่ออาหาร หายใจลำบาก ซีด มีจ้ำตามตัว เลือดออกง่าย มีจุดเลือดออก ปวดข้อ ปวดกระดูก และติดเชื้อบ่อยครั้งหรือไม่หาย
ผู้ป่วยมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์อาจมีม้ามโตได้ แต่ส่วนใหญ่มักโตไม่มากและไม่มีอาการ ผู้ป่วยมักไม่มีต่อมน้ำเหลืองโตซึ่งต่างกับมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดลิมโฟบลาสติก ผู้ป่วย 10% อาจมีอาการแสดงทางผิวหนังเรียกว่าลิวคีเมีย คิวติส (leukemia cutis) และอาจพบกลุ่มอาการสวีท (Sweet's syndrome) ซึ่งเป็นอาการอักเสบของผิวหนังแบบพารานีโอพลาสติกที่พบไม่บ่อย ซึ่งอาจพบร่วมกับมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์ได้
ผู้ป่วยบางรายอาจมีเหงือกบวมจากการที่เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดเข้าไปแทรกตัวอยู่ในเนื้อเยื่อเหงือก ผู้ป่วยจำนวนน้อยบางรายอาจมีอาการแสดงแรกของโรคเป็นการพบก้อนเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดนอกไขกระดูกเรียกว่าคลอโรมา (chloroma) บางครั้งผู้ป่วยอาจไม่มีอาการใดๆ และพบโรคโดยบังเอิญจากการตรวจเลือดก็ได้
สาเหตุ
โรคก่อนเป็นมะเร็งเม็ดเลือด
การสัมผัสสารเคมี
รังสี
พันธุกรรม
การวินิจฉัย
ส่วนใหญ่แล้วร่องรอยแรกๆ ที่จะทำให้สงสัยว่าผู้ป่วยจะเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเรื้อรังชนิดไมอิลอยด์ก็คือการมีผลการตรวจการนับเม็ดเลือด (complete blood count) ผิดปกติโดยมักพบว่ามีจำนวนเม็ดเลือดขาวมากกว่าปกติ (leukocytosis) บางครั้งจะเห็นเซลล์ตัวอ่อนเม็ดเลือดขาว (leukemic blasts) หรืออาจพบแต่เพียงการมีเกล็ดเลือดหรือเม็ดเลือดแดงลดลง หรืออาจพบเม็ดเลือดขาวลดลง (leukopenia) ก็เป็นได้ ถึงแม้ว่าการวินิจฉัยเบื้องต้นจะสามารถทำได้ด้วยการตรวจเสมียร์เลือด (peripheral blood smear) แต่การวินิจฉัยให้แน่ชัดนั้นจะเป็นต้องทำด้วยการเจาะดูดและตัดชิ้นเนื้อไขกระดูก
ไขกระดูกหรือเลือดจะถูกตรวจด้วยกล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงหรือด้วยวิธี flow cytometry เพื่อหาว่ามีเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดหรือไม่ ถ้ามี เป็นเซลล์ชนิดใด เป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดไมอิลอยด์หรือมะเร็งเม็ดเลือดขาวชนิดอื่น (เช่น มะเร็งเม็ดเลือดขาวเฉียบพลันชนิดลิมโฟบลาสติก) และจัดอยู่ในประเภทย่อยประเภทใด ตัวอย่างเลือดหรือไขกระดูกที่ได้มักได้รับการตรวจเพิ่มเพื่อหาการย้ายที่ของโครโมโซม (chromosomal translocation) ด้วยวิธีมาตรฐานทางเซลล์พันธุศาสตร์หรือวิธี FISH (fluorescent in situ hybridization) การตรวจทางพันธุศาสตร์อาจเป็นการตรวจเพื่อหาการกลายพันธุ์เฉพาะที่ในบางตำแหน่งของยีน เช่น FLT3, nucleophosmin และ KIT ซึ่งอาจมีผลกับผลการรักษาได้
พยาธิสรีรวิทยา
การรักษา
พยากรณ์โรค
เซลล์พันธุศาสตร์
แหล่งข้อมูลอื่น
- Acute Myeloid Leukemia เก็บถาวร 2009-10-30 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ที่ American Cancer Society
- Acute Myeloid Leukemia ที่ Leukemia & Lymphoma Society
- Childhood Acute Myeloid Leukemia เก็บถาวร 2009-09-23 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ที่ cchs.net
- PDQ statement on AML for health professionals เก็บถาวร 2009-09-26 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน ที่ National Cancer Institute
การจำแนกโรค | |
---|---|
ทรัพยากรภายนอก |
CFU-GM/ and other granulocytes |
|
||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
MEP |
|
||||||||||||||
CFU-Mast | |||||||||||||||
Multiple/unknown | |||||||||||||||
|