เมทิลีนบลู
| ข้อมูลทางคลินิก | |
|---|---|
| ชื่อทางการค้า | Urelene blue, Provayblue, Proveblue, others |
| ชื่ออื่น | CI 52015, basic blue 9 |
| AHFS/Drugs.com | โมโนกราฟ |
| ข้อมูลทะเบียนยา |
|
| ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ | |
| ช่องทางการรับยา | ทางปาก, การฉีดเข้าหลอดเลือดดำ (IV) |
| รหัส ATC | |
| กฏหมาย | |
| สถานะตามกฏหมาย |
|
| ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์ | |
| ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ | 5–24 ชั่วโมง |
| ตัวบ่งชี้ | |
| |
| เลขทะเบียน CAS | |
| PubChem CID | |
| DrugBank |
|
| ChemSpider |
|
| UNII | |
| KEGG | |
| ChEBI | |
| ChEMBL | |
| ECHA InfoCard | 100.000.469 |
| ข้อมูลทางกายภาพและเคมี | |
| สูตร | C16H18ClN3S |
| มวลต่อโมล | 319.85 g·mol−1 |
| แบบจำลอง 3D (JSmol) | |
| |
| (verify) | |
เมทิลีนบลู (อังกฤษ: methylene blue) หรือชื่อระหว่างประเทศที่ไม่มีเจ้าของเรียก เมทิลไทโอนิเนียมคลอไรด์ (methylthioninium chloride) เป็นสีย้อมในกลุ่มไทอะซีน อนุพันธ์ฟีโนไทอะซีน มีสูตรเคมีคือ C16H18ClN3S ลักษณะเป็นผงสีเขียวเข้ม ไม่มีกลิ่น มีค่า pH 6 ในน้ำที่อุณหภูมิ 25 °C มีจุดเดือดที่ 100 °C จุดหลอมเหลวที่ 190 °C เมทิลีนบลูละลายในน้ำ เอทานอล และคลอโรฟอร์ม แต่ไม่ละลายในเอทิลอีเทอร์ ไซลีน และกรดโอเลอิก เมื่อละลายในน้ำและเอทานอลจะได้สารละลายสีน้ำเงิน เมทิลีนบลูถูกค้นพบครั้งแรกโดยไฮน์ริช คาโร นักเคมีชาวเยอรมันในปี ค.ศ. 1876
เมทิลีนบลูเตรียมได้จากปฏิกิริยาออกซิเดชันของไดเมทิล-4-ฟีนิลลีนไดเอมีนกับโซเดียมไทโอซัลเฟต ใช้เป็นสีย้อมในการผ่าตัดติ่งเนื้อเมือกแบบส่องกล้องร่วมกับน้ำเกลือและเอพิเนฟรีน โดยฉีดที่ชั้นใต้เยื่อเมือกรอบ ๆ ติ่งเนื้อเมือก และใช้ในการส่องกล้องร่วมกับการใช้สี (chromoendoscopy) โดยพ่นไปบนเยื่อเมือกเพื่อตรวจหาการเจริญผิดปกติหรือรอยโรคก่อนเป็นมะเร็ง
ทางการแพทย์
ในปี ค.ศ. 1933 มาทิลดา บรูกส์ นักชีววิทยาชาวอเมริกันค้นพบว่าเมทิลีนบลูใช้เป็นยาต้านภาวะเป็นพิษคาร์บอนมอนอกไซด์และการเป็นพิษจากไซยาไนด์ ถึงแม้จะไม่แนะนำให้ใช้เมทิลีนบลูในการรักษาภาวะเหล่านี้แล้ว แต่เมทิลีนบลูยังปรากฏเป็นยาต้านพิษในยาหลักขององค์การอนามัยโลก ปัจจุบันเมทิลีนบลูใช้เป็นยารักษาภาวะเมทฮีโมโกลบินในเลือด โดยเฉพาะในรายที่มีระดับเมทฮีโมโกลบินมากกว่า 30% หรือไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยออกซิเจน โดยให้ทางหลอดเลือดดำ
ผลข้างเคียงของการใช้ยาเมทิลีนบลู ได้แก่ ปวดศีรษะ อาเจียน สับสน หายใจลำบาก ความดันโลหิตสูง ผลข้างเคียงอื่น ๆ รวมถึงการสลายของเม็ดเลือดแดงและภูมิแพ้ การใช้เมทิลีนบลูมักทำให้เหงื่อ ปัสสาวะ และอุจจาระมีสีน้ำเงินถึงเขียว เมทิลีนบลูมีคุณสมบัติยับยั้งมอนอเอมีนออกซิเดส เอนไซม์ที่สลายสารสื่อประสาทเซโรโทนิน มีรายงานว่าผู้ป่วยที่ใช้เมทิลีนบลูร่วมกับยา Selective serotonin re-uptake inhibitors ประสบกับกลุ่มอาการเซโรโทนิน ไม่ควรใช้เมทิลีนบลูในการรักษาโรคพร่องเอนไซม์ G-6-PD เพราะจะทำให้เม็ดเลือดแดงสลาย
ประโยชน์อื่น ๆ
เมทิลีนบลูใช้เป็นตัวบ่งชี้ปฏิกิริยารีดอกซ์ โดยเมทิลีนบลูเป็นส่วนประกอบหนึ่งในสารละลายในการทดลองขวดสีน้ำเงินร่วมกับกลูโคสและโซดาไฟ ซึ่งเมื่อเขย่าสารละลายจะเป็นสีน้ำเงินเกิดจากแก๊สออกซิเจนออกซิไดซ์เมทิลีนบลู แต่หากตั้งทิ้งไว้สักครู่ สารละลายจะเป็นสีใสเกิดจากกลูโคสรีดิวซ์เมทิลีนบลู นอกจากนี้ยังใช้ป้องกันเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในปลาเลี้ยง โดยเฉพาะโรคจุดขาวที่เกิดจากโปรโตซัวชนิด Ichthyophthirius multifiliis
แหล่งข้อมูลอื่น
-
วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เมทิลีนบลู
- "Methylene blue - MSDS" (PDF). LabChem.
- "Methylene blue". New World Encyclopedia.