Мы используем файлы cookie.
Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.

แล็กทูโลส

Подписчиков: 0, рейтинг: 0
แล็กทูโลส
Lactulose structure.svg
ข้อมูลทางคลินิก
การอ่านออกเสียง /ˈlæktjʊls/
ชื่อทางการค้า Cholac, Generlac, Consulose, Duphalac และอื่น ๆ
ชื่ออื่น 4-O-β-D-Galactosyl-D-fructose
AHFS/Drugs.com โมโนกราฟ
MedlinePlus a682338
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์
  • US: B (ไม่มีความเสี่ยงในสัตว์)
ช่องทางการรับยา ปาก (รับประทาน)
รหัส ATC
กฏหมาย
สถานะตามกฏหมาย
ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์
ชีวประสิทธิผล ดูดซึมได้ไม่ดี
การเปลี่ยนแปลงยา 100% ในลำไส้ใหญ่โดยแบคทีเรียในลำไส้
ระยะเริ่มออกฤทธิ์ 8 ถึง 48 ชั่วโมง
ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ 1.7–2 ชั่วโมง
การขับออก อุจจาระ
ตัวบ่งชี้
  • 4-O-β-D-Galactopyranosyl-β-D-fructofuranose
    OR
    (2S,3R,4S,5R,6R)-2-((2R,3S,4S,5R)-4,5-Dihydroxy-2,5-bis(hydroxymethyl)tetrahydrofuran-3-yloxy)-6-(hydroxymethyl)tetrahydro-2H-pyran-3,4,5-triol
เลขทะเบียน CAS
PubChem CID
DrugBank
ChemSpider
UNII
KEGG
ChEBI
ChEMBL
ECHA InfoCard 100.022.752
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี
สูตร C12H22O11
มวลต่อโมล 342.30 g·mol−1
แบบจำลอง 3D (JSmol)
  • O[C@H]2[C@H](O[C@@H]1O[C@H](CO)[C@H](O)[C@H](O)[C@H]1O)[C@H](O[C@]2(O)CO)CO
  • InChI=1S/C12H22O11/c13-1-4-6(16)7(17)8(18)11(21-4)22-9-5(2-14)23-12(20,3-15)10(9)19/h4-11,13-20H,1-3H2/t4-,5-,6+,7+,8-,9-,10+,11+,12-/m1/s1 Yes check.svg 7
  • Key:JCQLYHFGKNRPGE-FCVZTGTOSA-N Yes check.svg 7
  (verify)
Pharmaklog.png สารานุกรมเภสัชกรรม

แล็กทูโลส (อังกฤษ: Lactulose) เป็นน้ำตาลที่ดูดซึมไม่ได้ สามารถใช้รักษาอาการท้องผูก โดยใช้รับประทาน ซึ่งปกติจะออกฤทธิ์ภายใน 8–12 ชั่วโมง แต่อาจใช้เวลาถึง 2 วันก่อนที่อาการท้องผูกจะดีขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้รักษาโรคสมองจากตับ (hepatic encephalopathy) โดยใช้รับประทาน หรือสอดในไส้ตรง

แล็กทูโลส อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงทำให้มีลมในท้อง และปวดท้อง รวมถึงมีโอกาสสร้างความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งอาจุเป็นสาเหตุของอาการท้องร่วง ทั้งนี้ ไม่พบหลักฐานว่าแล็กทูโลสเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ โดยทั่วไปจึงพิจารณาว่าแล็กทูโลสปลอดภัยต่อผู้ที่กำลังให้นมลูก แล็กทูโลสจัดอยู่ในยาระบายแบบออสโมซิส (osmotic laxative)

แล็กทูโลสถูกผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1929 และได้ใช้เป็นยาตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1950 อยู่ในบัญชียาหลักแห่งองค์การอนามัยโลก ซึ่งรวบรวมยาที่จำเป็น มีประสิทธิผล และปลอดภัยที่สุดในระบบสาธารณสุข แล็กทูโลสมีจำหน่ายทั้งในรูปแบบยาสามัญ และยาที่มีชื่อทางการค้า

แล็กทูโลสสามารถผลิตได้จากน้ำตาลแล็กโทสที่พบในนม ซึ่งเป็นไดแซ็กคาไรด์ (น้ำตาลโมเลกุลคู่) ที่เกิดจากการรวมตัวกันของโมเลกุลของโมโนแซ็กคาไรด์ (น้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว) กาแล็กโทส และกลูโคส อย่างละ 1 โมเลกุล

การแพทย์

ท้องผูก (constipation)

แล็กทูโลสใช้เพื่อรักษาอาการท้องผูกที่ไม่ทราบสาเหตุและเรื้อรัง (chronic idiopathic constipation) ในคนไข้ทุกอายุ โดยเป็นการรักษาแบบระยะยาว นอกจากนี้ ยังสามารถใช้แล็กทูโลสเพื่อแก้ท้องผูกที่เป็นผลของยาโอปิออยด์ และใช้รักษาอาการของโรคริดสีดวงทวารโดยทำอุจจาระให้อ่อนนุ่มลง

ขนาดของแล็กทูโลสเพื่อรักษาอาการท้องผูกที่ไม่ทราบสาเหตุและเรื้อรัง จะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการท้องผูก และผลที่ต้องการ ตั้งแต่เป็นตัวทำอุจจาระให้อ่อนนุ่มลง ไปจนถึงทำให้ท้องร่วง โดยจะลดขนาดของแล็กทูโลสลงในผู้ป่วยภาวะมีกาแล็กโทสในเลือด (galactosemia) เนื่องจากการสังเคราะห์แล็กทูโลสจะใช้โมโนแซ็กคาไรด์ชนิดกาแล็กโทสในกระบวนการ

ภาวะแอมโมเนียเกินในเลือด (hyperammonemia)

แล็กทูโลสมีประโยชน์ในการรักษาภาวะแอมโมเนียเกินในเลือด (hyperammonemia) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคสมองจากตับ (hepatic encephalopathy) คือ ยาจะช่วยดักจับแอมโมเนีย (NH3) ในลำไส้ใหญ่ โดยอาศัยแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ เพื่อทำลำไส้ใหญ่ให้เป็นกรด แล้วเปลี่ยนแอมโมเนียซึ่งสามารถแพร่อย่างเป็นอิสระให้เป็นแอมโมเนียม ไอออน (NH+
4
) ซึ่งไม่สามารถแพร่กลับเข้าสู่เลือด

ยามีประโยชน์ป้องกันภาวะแอมโมเนียเกินในเลือดที่เป็นผลข้างเคียงจากการใช้ยา valproic acid เพื่อรักษาโรคลมชัก โรคอารมณ์สองขั้ว และโรคไมเกรน

การรักษาโรคสมองจากตับโดยทั่วไปจำเป็นต้องรับประทานแล็กทูโลสค่อนข้างมากถึง 3–4 ครั้งต่อวัน จึงทำให้มีอาการท้องร่วงเป็นครั้งคราว และท้องอืดเรื่อย ๆ เป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้ป่วยที่รับประทานแล็กทูโลสในระดับนี้ โดยทั่วไปจะต้องใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ และกางเกงในพลาสติกสำหรับกิจกรรมนอกบ้าน หรือเมื่อนอน (โดยอาจต้องใช้เบาะป้องกันเตียงด้วย) เนื่องจากอาการท้องร่วงอาจเกิดได้อย่างรวดเร็วโดยไร้สัญญาณเตือน

ภาวะจุลินทรีย์ในลำไส้เล็กเจริญเติบโตมากผิดปกติ (small intestine bacterial overgrowth; SIBO)

แล็กทูโลสสามารถใช้สำหรับทดสอบว่า มีภาวะจุลินทรีย์ในลำไส้เล็กเจริญเติบโตมากผิดปกติ (small intestine bacterial overgrowth; อักษรย่อ: SIBO) หรือไม่ แต่มีงานวิจัยหลายงานได้ตั้งข้อสงสัยอย่างหนักถึงความน่าเชื่อถือ ของการวินิจฉัย SIBO ด้วยวิธีนี้

การทดสอบจะให้ผู้รับการทดสอบรับประทานแล็กทูโลสเป็นจำนวนมาก แล้วตรวจสอบว่ามีแก๊สไฮโดรเจนในลมหายใจหรือไม่ การทดสอบจะมีผลเป็นบวกถ้าพบว่ามีไฮโดรเจนเพิ่มขึ้นในลมหายใจ ก่อนถึงเวลาที่คาดว่าแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่จะย่อยสลายน้ำตาลได้ การทดสอบนี้มาจากผลงานวิจัยเบื้องต้นที่ได้เสนอสมมติฐานว่า การย่อยสลายที่เกิดก่อนมาจากลำไส้เล็ก อย่างไรก็ตาม ภายหลังก็มีการเสนอคำอธิบายอีกอย่างว่า เป็นค่าแปรปรวนของเวลาที่อาหารผ่านลำไส้เล็กในแต่ละบุคคล

การใช้ในผู้มีครรภ์ (pregnancy) และผู้ให้นมลูก (breastfeeding)

ไม่พบหลักฐานว่าแล็กทูโลสเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ โดยทั่วไปจึงพิจารณาว่าแล็กทูโลสปลอดภัยต่อผู้ที่กำลังให้นมลูก

ผลข้างเคียง

ผลข้างเคียงสามัญของแล็กทูโลส อาจทำให้ ปวดท้อง ท้องร้อง (borborygmus) และมีอาการท้องอืด (flatulence) ในบุคคลทั่วไป การรับประทานแล็กทูโลสที่มากเกินจะทำให้รู้สึกไม่สบาย แต่ก็ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

ผลข้างเคียงที่ไม่สามัญ อาจทำให้ คลื่นไส้ และอาเจียน ในบุคคลที่ไวต่อแล็กทูโลส เช่น คนชรา หรือผู้ที่ไตทำงานได้ไม่เต็มที่

การรับประทานแล็กทูโลสเกินขนาด อาจทำให้มีภาวะขาดน้ำ และความปั่นป่วนของอิเล็กโทรไลต์ เช่น ระดับแมกนีเซียมต่ำเกิน

การรับประทานแล็กทูโลสไม่ได้ทำให้น้ำหนักเพิ่ม เพราะร่างกายไม่สามารถย่อยแล็กทูโลสได้ และแล็กทูโลสไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ ทั้งนี้ แม้แล็กทูโลสจะมีโอกาสทำให้ฟันผุน้อยกว่าซูโครส แต่น้ำตาลทุกชนิดก็อาจทำให้ฟันผุ จึงเป็นปัจจัยที่ควรพิจารณาสำหรับบุคคลที่ไว หรือเสี่ยงต่อสถานการณ์นี้

กลไกการทำงาน

แล็กทูโลส เป็นไดแซ็กคาไรด์ ที่เกิดจากโมโนแซ็กคาไรด์ 2 โมเลกุลประกอบกัน คือ ฟรักโทส และกาแล็กโทส อย่างละ 1 โมเลกุล ปกติจะไม่พบแล็กทูโลสในน้ำนมดิบ แต่จะสามารถพบได้เมื่อนำน้ำนมดิบไปผ่านกระบวนการให้ความร้อน โดยความร้อนยิ่งสูงเท่าใด ปริมาณก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น (จาก 3.5 mg/L ในนมพาสเจอร์ไรซ์ที่ผ่านความร้อนต่ำ เป็น 744 mg/L ในนมสเตอริไลซ์ในบรรจุภัณฑ์) แล็กทูโลสที่ผลิตเพื่อการค้า ผลิตโดยกระบวนการเปลี่ยนไอโซเมอร์ (isomerization) ของแล็กโทส

แล็กทูโลส ไม่ได้ถูกดูดซึมเข้าลำไส้เล็ก และไม่ได้ย่อยสลายโดยเอนไซม์ของมนุษย์ ดังนั้น แล็กทูโลสจึงดำรงอยู่ในอาหารที่เคี้ยวแล้วตลอดทางเดินอาหาร โดยเป็นตัวกักน้ำไว้ผ่านกระบวนการออสโมซิส ซึ่งทำอุจจาระให้อ่อนนุ่มลง และขับถ่ายออกมาได้ง่ายขึ้น

แล็กทูโลส ยังมีฤทธิ์ทุติยภูมิในลำไส้ใหญ่ เพราะแบคทีเรียในลำไส้จะใช้แล็กทูโลสในการหมักดอง และสร้างเมแทบอไลต์เช่น แอซิเตต ซึ่งมีทั้งฤทธิ์ดูดน้ำ (ออสโมซิส) และกระตุ้นการบีบรูดของลำไส้ แต่ก็ทำให้เกิดแก๊สในลำไส้ด้วย เช่น มีเทน ที่เป็นสาเหตุของการผายลม

แบคทีเรียในโคลอน (ลำไส้ใหญ่) จะย่อยสลายแล็กทูโลส ให้กลายเป็นกรดไขมันห่วงโซ่สั้น ซึ่งรวมถึงกรดแล็กติกและกรดน้ำส้ม โดยกรดไขมันห่วงโซ่สั้นส่วนหนึ่งจะแยกตัวออก แล้วทำสิ่งที่อยู่ในโคลอนให้เป็นกรด ด้วยการเพิ่มความหนาแน่นของไฮโดรเจน ไอออน (H+) ในลำไส้ นอกจากนี้ยังช่วยเปลี่ยนแอมโมเนีย (NH3) ให้กลายเป็นแอมโมเนียม ไอออน (NH+
4
) ซึ่งดูดซึมไม่ได้ จึงเท่ากับดักแอมโมเนียไว้ในลำไส้ และลดความเข้มข้นของแอมโมเนียในเลือด ดังนั้น แล็กทูโลสจึงมีประสิทธิผลรักษาโรคสมองจากตับ โดยแล็กทูโลสเป็นยาป้องกันระดับทุติยภูมิ ของโรคสมองจากตับ สำหรับคนไข้ที่มีตับแข็ง นอกจากนี้ งานวิจัยในปี ค.ศ. 2007 ยังพบว่า มีการทำงานทางประชานที่ดีกว่า สำหรับบุคคลที่มีตับแข็งและเป็นโรคสมองจากตับในระดับน้อยซึ่งรักษาด้วยแล็กทูโลส

สังคมและวัฒนธรรม

ชื่อ

แล็กทูโลส เป็นชื่อระหว่างประเทศที่ไม่มีเจ้าของ (INN) แล็กทูโลสถูกขายภายใต้ชื่อการค้าต่าง ๆ หลายชื่อ เช่น Cholac, Chronulac, Constilac, Generlac, Consulose, Constulose, Enulose, Kristalose, Duphalac และ ชื่อทางการค้าอื่น ๆ

การวางจำหน่าย

แล็กทูโลสเป็นยาสามัญ สามารถหาซื้อได้โดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาในหลายประเทศ แต่ต้องใช้ใบสั่งแพทย์เพื่อซื้อในสหรัฐ ไนจีเรีย และออสเตรีย

การใช้เป็นสารเติมแต่งอาหาร

ในหลายประเทศที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งยาสำหรับซื้อแล็กทูโลส อาจใช้แล็กทูโลสเป็นสารเติมแต่งอาหาร เพื่อเพิ่มรสชาติและทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น

การใช้ในเชิงสัตวแพทยศาสตร์

มีงานวิจัยรองรับว่า แล็กทูโลส สามารถใช้เป็นยาระบายในสัตว์ได้

แหล่งข้อมูลอื่น


Новое сообщение