แอสไพริน
| ข้อมูลทางคลินิก | |
|---|---|
| ชื่ออื่น | 2-acetoxybenzoic acid acetylsalicylate acetylsalicylic acid O-acetylsalicylic acid  | 
| AHFS/Drugs.com | โมโนกราฟ | 
| MedlinePlus | a682878 | 
| ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ | |
| ช่องทางการรับยา | ส่วนใหญ่ทางปาก ไส้ตรง ไลซีนอะซีทัลซาลิซิลิกอาจให้ฉีดเข้าหลอดเลือดดำหรือฉีดเข้ากล้ามเนื้อ | 
| รหัส ATC | |
| กฏหมาย | |
| สถานะตามกฏหมาย | 
  | 
| ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์ | |
| ชีวประสิทธิผล | 80–100% | 
| การจับกับโปรตีน | 80–90% | 
| การเปลี่ยนแปลงยา | ตับ, (CYP2C19 และอาจ CYP3A), บ้างถูกสลายด้วยน้ำเป็นซาลิซิเลตในผนังลำไส้ | 
| ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ | ขึ้นกับขนาด; 2–3 ชั่วโมง ณ ขนาดต่ำ, 15–30 ชั่วโมงสำหรับขนาดสูง | 
| การขับออก | ปัสสาวะ (80–100%), เหงื่อ, น้ำลาย, อุจจาระ | 
| ตัวบ่งชี้ | |
  | |
| เลขทะเบียน CAS | |
| PubChem CID | |
| DrugBank | 
  | 
| ChemSpider | 
  | 
| UNII | |
| KEGG | 
  | 
| ChEBI | |
| ChEMBL | 
  | 
| PDB ligand | |
| ECHA InfoCard | 100.000.059 | 
| ข้อมูลทางกายภาพและเคมี | |
| สูตร | C9H8O4 | 
| มวลต่อโมล | 180.157 g/mol | 
| แบบจำลอง 3D (JSmol) | |
| ความหนาแน่น | 1.40 g/cm3 | 
| จุดหลอมเหลว | 136 องศาเซลเซียส (277 องศาฟาเรนไฮต์) | 
| จุดเดือด | 140 องศาเซลเซียส (284 องศาฟาเรนไฮต์) (สลายตัว) | 
| การละลายในน้ำ | 3 mg/mL (20 °C) | 
  | |
| (verify) | |
แอสไพริน (อังกฤษ: aspirin) (BAN, USAN) หรือกรดอะซีทัลซาลิซิลิก (อังกฤษ: acetylsalicylic acid, ASA) เป็นยาซาลิซิเลต มักใช้เป็นยาระงับปวด ยาลดไข้และยาแก้อักเสบ แอสไพรินยังมีฤทธิ์ต้านเกล็ดเลือดโดยยับยั้งการผลิตทรอมบ็อกเซน ซึ่งปกติเชื่อมโมเลกุลเกล็ดเลือดเข้าด้วยกันเพื่อสร้างปื้นเหนือผนังหลอดเลือดที่เสียหาย เนื่องจากปื้นเกล็ดเลือดสามารถใหญ่เกินไปได้และยังขัดขวางการไหลของเลือด ทั้งเฉพาะที่และที่อยู่หลังจากนั้น แอสไพรินยังใช้ระยะยาวที่ขนาดต่ำเพื่อช่วยป้องกันอาการหัวใจล้ม โรคหลอดเลือดสมองและการเกิดลิ่มเลือดในผู้ที่มีความเสี่ยงสูงเกิดลิ่มเลือด นอกจากนี้ อาจให้แอสไพรินขนาดต่ำทันทีหลังอาการหัวใจล้มเพื่อลดความเสี่ยงอาการหัวใจลมอีกหนและการตายของเนื้อเยื่อหัวใจ แอสไพรินอาจให้ผลป้องกันมะเร็งบางชนิด โดยเฉพาะมะเร็งลำไส้ใหญ่
ฤทธิ์ข้างเคียงหลักของแอสไพริน คือ แผลกระเพาะและลำไส้ เลือดไหลในกระเพาะอาหารและเสียงในหู โดยเฉพาะในขนาดสูง ในเด็กและวัยรุ่น ไม่แนะนำแอสไพรินสำหรับอาการคล้ายหวัดหรือการเจ็บป่วยจากไวรัส เพราะเสี่ยงต่อกลุ่มอาการไรย์ (Reye's syndrome)
แอสไพรินอยู่ในกลุ่มยารักษาโรคชื่อ ยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สเตอรอยด์ (nonsteroidal anti-inflammatory drugs, NSAIDs) แต่กลไกออกฤทธิ์ของมันต่างจาก NSAIDs อื่นส่วนมาก แม้มันและยาอื่นที่มีโครงสร้างคล้ายกัน เรียก ซาลิซิเลต มีฤทธิ์คล้ายกับ NSAIDs (ลดไข้ แก้อักเสบ ระงับปวด) และยับยั้งเอนไซม์ไซโคลออกซิจีเนส (cyclooxygenase, COX) ตัวเดียวกัน แต่แอสไพรินยับยั้งแบบผันกลับไม่ได้ และไม่เหมือนยาอื่น มีผลกับเอนไซม์ COX-1 มากกว่า COX-2
เอ็ดเวิร์ด สโตน แห่งวิทยาลัยวอแดม (Wadham College) มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ค้นพบส่วนประกอบกัมมันต์ของแอสไพรินครั้งแรกจากเปลือกต้นวิลโลว์ใน ค.ศ. 1763 เขาค้นพบกรดซาลิไซลิก เมทาบอไลต์กัมมันต์ของแอสไพริน เฟลิกซ์ ฮอฟฟ์มันน์ นักเคมีแห่งบริษัทไบเออร์ เอจี ประเทศเยอรมนี สังเคราะห์แอสไพรินครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. 1897 แอสไพรินเป็นยารักษาโรคที่ใช้กันกว้างขวางที่สุดในโลกชนิดหนึ่ง โดยมีการบริโภคประมาณ 40,000 ตันต่อปี ในประเทศซึ่ง "แอสไพริน" เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของบริษัทไบเออร์ ชื่อสามัญคือ กรดซาลิซิลิก แอสไพรินอยู่ในรายการตัวแบบยาจำเป็นขององค์การอนามัยโลก (WHO Model List of Essential Medicines) ซึ่งเป็นยารักษาโรคสำคัญที่สุดซึ่งจำเป็นในระบบสุขภาพพื้นฐาน
ประวัติแอสไพริน
มีการกล่าวถึงยาที่ทำจากต้นวิลโลว์หรือพืชชนิดอื่นที่มีกรดซาลิซิลิกสูงในแผ่นจารึกดินเหนียวจากสมัยสุเมเรียนโบราณและในตำราการแพทย์ ebers papyrus ของอิยิปต์โบราณ แพทย์กรีกอย่างฮิปโปเครตีสก็เคยกล่าวถึงการใช้ชาซาลิซิลิกในการลดไข้ตั้งแต่ 400 ปีก่อนคริสตกาล และถูกบันทึกไว้เป็นส่วนหนึ่งของตำรามาตรฐานของการแพทย์ตะวันตกในยุคคลาสสิกและยุคกลาง
- ค.ศ. 1763 เอ็ดวาร์ด สโตน (Edward Stone) แห่งออกฟอร์ดเชีย (Oxfordshire) ประเทศอังกฤษ พบว่าเปลือกหลิว (willow) มีสรรพคุณลดไข้ได้
 - ค.ศ. 1828 เฮนรี่ เลอร๊อกซ์ (Henri Leroux) เภสัชกรชาวฝรั่งเศส และ ราฟฟาเอล ปีเรีย (Raffaele Piria) นักเคมีชาวอิตาลีสามารถสกัด ซาลิซิน (salicin) ในรูปผลึกได้ซึ่งมีสมบัติทางเคมีเป็นกรดอย่างแรงในสารละลายที่อิ่มตัวจะมี pH = 2.4 และต่อมาพบว่าสารตัวนี้เป็น กรดซาลิไซลิก (salicylic acid) นั่นเอง
 - ค.ศ. 1897 ฟิลิกซ์ ฮอฟฟ์แมน (Felix Hoffmann) นักวิจัยของไบเออร์ได้เปลี่ยนแปลง หมู่ฟังก์ชันไฮดรอกซิล ของกรดซาลิไซลิกด้วยอะซิทิล กรุ๊ฟ ได้เป็น อะซิทิล เอสเตอร์ (acetyl ester) หรือ อะซิทิลซาลิไซลิก แอซิด (acetylsalicylic acid) ซึ่งเป็นสารเคมีที่สังเคราะห์ขึ้นโดยไม่เลียนแบบธรรมชาติเป็นตัวแรกของโลกด้วย และที่สำคัญสารเคมีตัวใหม่มีผลข้างเคียงน้อยกว่าเดิมมาก ฟิลิกซ์ได้ทดลองยาตัวนี้กับพ่อของเขาซึ่งเป็น โรคข้ออักเสบ ปรากฏว่าได้ผลดีและไม่มีอาการข้างเคียงด้วย เขาจึงเสนอบริษัทฯ ให้ทำตลาดยาตัวนี้
 - 6 มีนาคม ค.ศ. 1899 ไบเออร์ได้จดสิทธิบัตรยาตัวนี้โดยใช้ชื่อการค้าว่า "แอสไพริน"
 
 
  | 
แหล่งข้อมูลอื่น
| 
คอมมอนส์ มีภาพและสื่อเกี่ยวกับ: แอสไพริน  | 
- "Aspirin". Drug Information Portal. U.S. National Library of Medicine.
 - Ling G (2005). "Aspirin". How Products Are Made. Vol. 1. Thomson Gale.
 
| สารป้องกันฟันผุ | |||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| สารต้านการติดเชื้อและสารระงับเชื้อ | 
แอมโฟเทอริซินบี • เบนโซโซเนียมคลอไรด์ • คลอเฮกซิดีน • โดมิเฟน โบรไมด์ • ดอกซีไซคลีน • ยูจินอล • เฮเซทิดีน • ไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์ • เมพาร์ทริซิน • เมโทรนิดาโซล • มิโคนาโซล • มิโนไซคลีน • นาตาไมซิน • นีโอไมซิน • ออกซีควิโนลีน • พอลินอกซิลิน • โซเดียมเปอร์บอเรต • เตตราไซคลีน • ไทเบโซเนียมไอโอไดด์ • โคลไตรมาโซล • คลอร์เตตราไซคลีน
  | 
||||||||
| คอร์ติโคสเตอรอยด์ (กลูโคคอร์ติคอยด์) | |||||||||
| อื่นๆ | |||||||||
  | |||||||||
| กลุ่มระงับปวด | |
|---|---|
| กลุ่มเอ็นเซด | 
กรดนิฟลูมิก · คีโตโปรเฟน · คีโตโรแลค · ซีลีคอกซิบ · ไดโคลฟีแนค · นาพรอกเซน · มีลอกซิแคม · ไพรอกซิแคม · เมตทิล ซาลิไซเลต · โรฟีคอกซิบ · อินโดเมตทาซิน · แอสไพริน · ไอบูโปรเฟน · อีโทโดแลค · ไดฟลูนิซอล · โลโซโปรเฟน · ทีนอกซิแคม · ไนมีซูไลด์ · มีฟีนามิก แอซิด
  | 
| กลุ่มโอปิออยด์ | 
คาร์เฟนทานิล · โคดีอีน · โคดีอิโนน · ซูเฟนทานิล  · เดกซ์โตรโพรพอไซฟีน · ไดไฮโดรโคดีอีน · ทรามาดอล · บิวพรีนอร์ฟีน · เฟนทานิล · เมทาโดน · มอร์ฟีน · มอร์ฟิโนน · เพทิดีน · รีมิเฟนทานิล · ออกซิโคโดน · ออกซิมอร์ฟีน · อัลเฟนทานิล · เฮโรอีน · ไฮโดรโคโดน · ไฮโดรมอร์โฟน
  |