ไดแอซิแพม
| ข้อมูลทางคลินิก | |
|---|---|
| การอ่านออกเสียง | /daɪˈæzɪpæm/ |
| ชื่อทางการค้า | Valium and many others |
| AHFS/Drugs.com | โมโนกราฟ |
| MedlinePlus | a682047 |
| ข้อมูลทะเบียนยา | |
| ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์ | |
| Dependence liability |
ปานกลาง |
| Addiction liability |
Moderate |
| ช่องทางการรับยา | รับประทาน, ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ, ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ, ทวารหนัก |
| รหัส ATC | |
| กฏหมาย | |
| สถานะตามกฏหมาย |
|
| ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์ | |
| ชีวประสิทธิผล | 93–100% |
| การเปลี่ยนแปลงยา | ตับ—CYP2B6 (minor route) to desmethyldiazepam, CYP2C19 (major route) to inactive metabolites, CYP3A4 (major route) to desmethyldiazepam |
| ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ | 20–100 ชั่วโมง |
| การขับออก | ไต |
| ตัวบ่งชี้ | |
| |
| เลขทะเบียน CAS | |
| PubChem CID | |
| IUPHAR/BPS | |
| DrugBank |
|
| ChemSpider |
|
| UNII | |
| KEGG |
|
| ChEBI | |
| ChEMBL |
|
| ECHA InfoCard | 100.006.476 |
| ข้อมูลทางกายภาพและเคมี | |
| สูตร | C16H13ClN2O |
| มวลต่อโมล | 284.7 g/mol |
| แบบจำลอง 3D (JSmol) | |
| |
|
| |
ไดแอซิแพม (Diazepam) หรือชื่อทางการค้าคือ แวเลียม (Valium) เป็นยาในกลุ่มเบ็นโซไดอาเซพีน มีฤทธิส่งผลให้สงบจิตใจลง ใช้ในการรักษาโรควิตกกังวล, โรคสั่นเพ้อเหตุขาดสุรา, โรคสั่นเพ้อเหตุขาดเบ็นโซไดอาเซพีน, อาการกล้ามเนื้อกระตุก, อาการชัก, โรคนอนไม่หลับ และกลุ่มอาการขาอยู่ไม่สุข การใช้ยาชนิดนี้อย่างต่อเนื่องอาจส่งผลให้เกิดอาการหลง ๆ ลืม ๆ สามารถรับยานี้ได้โดยวิธีรับประทาน, สอดใส่เข้าสู่ไส้ตรง, ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ หรือฉีดเข้าสู่หลอดเลือดดำ หากใช้วิธีฉีดเข้าหลอดเลือดจะออกฤทธิ์ใน 1 ถึง 5 นาที หากใช้วิธีรับประทาน จะออกฤทธิ์ภายใน 40 นาที
อาการข้างเคียงทั่วไปของการใช้ยาไดแอซิแพมได้แก่ ง่วงนอน, มองไม่ชัด ส่วนอาการข้างเคียงระดับรุนแรงซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้ยากนั้น ได้แก่ การฆ่าตัวตาย, หายใจลำบาก หากผู้ป่วยโรคลมชักใช้ยานี้บ่อยเกินไปจะเพิ่มความเสี่ยงจากอาการชัก การใช้ยานี้ในระยะยาวอาจก่อให้เกิดภาวะดื้อยาและเกิดอาการเสพติดยา การเลิกยาในทันทีเป็นอันตรายอย่างมากในผู้ป่วยที่ใช้ยาระยะยาว โดยจะส่งผลให้เกิดปัญหาด้านการรู้คิดไปเป็นเวลากว่าครึ่งปี
ไดแอซิแพมเป็นหนึ่งในยาที่ถูกสั่งจ่ายมากที่สุดตั้งแต่เริ่มการจ่ายในปี ค.ศ. 1963 โดยเป็นยาที่ขายดีที่สุดในสหรัฐอเมริการะหว่างปี ค.ศ. 1968 ถึง 1982 โดยในปี ค.ศ. 1978 เพียงปีเดียวสามารถขายได้กว่าสองพันล้านเม็ด ยานี้ยังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นยาหลักขององค์การอนามัยโลก ยานี้ไม่เหมาะสมต่อสตรีมีครรภ์และสตรีให้นมบุตร