Мы используем файлы cookie.
Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.

ริสเพอริโดน

Подписчиков: 0, рейтинг: 0
ริสเพอริโดน
Risperidone.svg
Risperidone-3D-balls.png
ข้อมูลทางคลินิก
ชื่อทางการค้า Risperdal, อื่น ๆ
AHFS/Drugs.com โมโนกราฟ
MedlinePlus a694015
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์
  • AU: B3
  • US: C (ยังไม่ชี้ขาด)
ช่องทางการรับยา ทางปาก (เป็นเม็ดหรือน้ำ), ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ
รหัส ATC
กฏหมาย
สถานะตามกฏหมาย
  • AU: S4 (ต้องใช้ใบสั่งยา)
  • UK: POM (Prescription only)
  • US: ℞-only
ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์
ชีวประสิทธิผล 70% (ทางปาก)
การเปลี่ยนแปลงยา ตับ (CYP2D6 mediated to paliperidone)
ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ 20 ชม. (ทางปาก), 3-6 วัน (IM)
การขับออก ปัสสาวะ (70%) อุจจาระ (14%)
ตัวบ่งชี้
  • 3-[2-[4- (6-fluoro-1,2-benzoxazol-3-yl) piperidin-1-yl]ethyl]-2-methyl-6,7,8,9-tetrahydropyrido[1,2-a]pyrimidin-4-one
เลขทะเบียน CAS
PubChem CID
IUPHAR/BPS
DrugBank
ChemSpider
UNII
KEGG
ChEBI
ChEMBL
ECHA InfoCard 100.114.705
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี
สูตร C23H27FN4O2
มวลต่อโมล 410.485 g/mol
แบบจำลอง 3D (JSmol)
  • Cc1c (c(=O) n2c (n1)CCCC2)CCN3CCC(CC3) c4c5ccc (cc5on4)F
  • InChI=1S/C23H27FN4O2/c1-15-18(23(29)28-10-3-2-4-21(28)25-15)9-13-27-11-7-16(8-12-27)22-19-6-5-17(24)14-20(19)30-26-22/h5-6,14,16H,2-4,7-13H2,1H3 Yes check.svg 7
  • Key:RAPZEAPATHNIPO-UHFFFAOYSA-N Yes check.svg 7
  (verify)
Pharmaklog.png สารานุกรมเภสัชกรรม

ริสเพอริโดน (อังกฤษ: Risperidone) หรือชื่อทางการค้าคือ ไรสเปอร์ดัล (Risperdal) เป็นยาระงับอาการทางจิต ใช้โดยหลักเพื่อรักษาโรคจิตเภท โรคอารมณ์สองขั้ว และความหงุดหงิดของคนไข้โรคออทิซึม เป็นยาที่ใช้รับประทานหรือฉีดในกล้ามเนื้อ โดยแบบฉีดมีฤทธิ์ยาวนานประมาณ 2 อาทิตย์

ผลข้างเคียงที่สามัญรวมทั้งปัญหาการเคลื่อนไหว (extrapyramidal symptoms) ความง่วง ปัญหาในการมองเห็น ท้องผูก และน้ำหนักเพิ่ม ผลข้างเคียงหนักอาจรวมความพิการทางการเคลื่อนไหวแบบถาวรคืออาการยึกยือเหตุยา (tardive dyskinesia) กลุ่มอาการร้ายจากยารักษาโรคจิต (neuroleptic malignant syndrome) โอกาสเสี่ยงฆ่าตัวตายสูงขึ้น และภาวะเลือดมีน้ำตาลมาก (hyperglycemia) ในผู้สูงอายุที่มีอาการโรคจิต (psychosis) เนื่องจากภาวะสมองเสื่อม อาจจะเพิ่มโอกาสเสียชีวิต ยังไม่ชัดเจนว่ายาปลอดภัยที่จะใช้ระหว่างมีครรภ์หรือไม่

ริสเพอริโดนเป็นยากลุ่ม atypical antipsychotic กลไกการออกฤทธิ์ของมันยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อว่าเกี่ยวกับความเป็นปฏิปักษ์ต่อระบบโดพามีน (dopamine antagonist)

งานศึกษาเกี่ยวกับยาเริ่มขึ้นในปลายคริสต์ทศวรรษ 1980 และได้รับอนุญาตให้ขายในสหรัฐอเมริกาในปี พ.ศ. 2536 เป็นยาในรายการยาจำเป็นขององค์การอนามัยโลก ซึ่งเป็นยาจำเป็นสำคัญที่สุดในระบบดูแลสุขภาพพื้นฐาน ปัจจุบันมีขายเป็นยาสามัญ (generic) โดยในประเทศกำลังพัฒนา ราคาขายส่งอยู่ที่ 0.01-0.60 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 35 สตางค์จนถึง 21 บาท) ต่อวันโดยปี 2557 ส่วนค่ายาทั่วไปปี 2558 ในสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ระหว่าง 100-200 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,500-7,000 บาท) ต่อเดือน

การแพทย์

ริสเพอริโดนโดยหลักใช้รักษาโรคจิตเภท โรคอารมณ์สองขั้ว และความหงุดหงิดของคนไข้โรคออทิซึม

โรคจิตเภท

ยามีประสิทธิผลในการรักษาการแย่ลงอย่างฉับพลันของโรคจิตเภท

ประโยชน์ของยาเพื่อรักษาแบบดำรงสภาพ (maintenance) มีข้อสรุปที่ต่าง ๆ กัน งานปริทัศน์เป็นระบบปี 2555 สรุปว่า มีหลักฐานที่หนักแน่นว่าริสเพอริโดนมีประสิทธิผลกว่ายาระงับอาการทางจิตรุ่นแรก ทั้งหมดยกเว้น haloperidol แต่หลักฐานที่สนับสนุนว่าดีกว่ายาหลอกไม่ชัดเจน ส่วนงานทบทวนวรรณกรรมปี 2554 สรุปว่า ยามีประสิทธิผลป้องกันการเกิดขึ้นอีกของโรคมากกว่ายารักษาโรคจิตรุ่นแรกและรุ่นสองทังหมดยกเว้น olanzapine และ clozapine ส่วนงานทบทวนแบบคอเครนปี 2553 พบประโยชน์เล็กน้อยในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกในการรักษาโรคจิตเภท แต่งานก็อ้างปัญหาด้วยว่ามีความเอนเอียง (bias) ว่ายามีประโยชน์

งานวิจัยพบว่า ยาฉีดรักษาโรคจิตที่มีฤทธิ์ยาวช่วยการได้ยาตามคำสั่งแพทย์และลดอัตราการเกิดโรคอีกเทียบกับยาทาน ส่วนประสิทธิผลของยาฉีดริสเพอริโดนที่มีฤทธิ์ยาวดูหมือนจะคล้ายกับยารักษาโรคจิตรุ่นแรกแบบฉีดที่มีฤทธิ์ยาวอื่น ๆ

โรคอารมณ์สองขั้ว

สำหรับโรคอารมณ์สองขั้ว ยารักษาโรคจิต (antipsychotic) รุ่นสองต่าง ๆ รวมทั้งริสเพอริโดนมีประสิทธิผลในการรักษาอาการฟุ้งพล่าน (mania) ไม่ว่าจะเป็นแบบฉับพลัน (acute) หรือเป็นความแย่ลงแบบผสม (mixed exacerbation) ของโรค ในเด็กและวัยรุ่น ริสเพอริโดนอาจมีประสิทธิผลดีกว่า lithium หรือ divalproex แต่มีผลข้างเคียงทางเมแทบอลิซึมมากกว่า ส่วนสำหรับการรักษาแบบดำรงสภาพ (maintenance) ยามีประสิทธิผลในการป้องกันคราวฟุ้งพล่าน (manic episode) แต่ไม่มีสำหรับคราวซึมเศร้า ยาแบบฉีดที่มีฤทธิ์ยาวอาจมีข้อได้เปรียบกว่ายารักษาโรคจิตรุ่นแรกที่มีฤทธิ์ยาวอื่น ๆ เพราะว่าคนไข้ทนยาได้ดีกว่า (เพราะมีผล extrapyramidal effects น้อยกว่า) และเพราะว่า ยารักษาโรคจิตรุ่นแรกแบบฉีดที่มีฤทธิ์ยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความซึมเศร้า

โรคออทิซึม

เทียบกับยาหลอก ยาลดพฤติกรรมปัญหาบางอย่างในเด็กโรคออทิซึม รวมทั้งความก้าวร้าว การทำร้ายตัวเอง ความงอแง และอารมณ์ที่เปลี่ยนอย่างรวดเร็ว และหลักฐานที่แสดงประสิทธิผลดูเหมือนจะมากกว่าการรักษาด้วยยาอื่น ๆ น้ำหนักเพิ่มเป็นผลที่ไม่พึงประสงค์ที่สำคัญอย่างหนึ่ง

นักวิชาการบางท่านแนะนำให้จำกัดใช้ยานี้และยา aripiprazole ในบุคคลที่มีปัญหาพฤติกรรมมากที่สุดเพื่อลดโอกาสเสี่ยงต่อผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการของยาให้น้อยที่สุด ส่วนหลักฐานประสิทธิภาพของยากับวัยรุ่นและผู้ใหญ่วัยต้นที่มีโรคออทิซิมชัดเจนน้อยกว่า

โรคอื่น ๆ

ในโรคซึมเศร้า ถ้ายาที่รักษาในเบื้องต้น (ซึ่งปกติเป็นยากลุ่ม SSRI) ไม่ช่วยบรรเทาอาการพอเพียง มีเทคนิคให้ยาเพิ่ม (adjuncts) คือ ใช้ยารักษาโรคจิต (antipsychotic) รวมกับยาแก้ซึมเศร้า โดยเฉพาะยารักษาโรคจิตแบบ atypical เช่น aripiprazole, quetiapine, olanzapine, และ ริสเปอริโดน

ยาดูจะมีอนาคตในการรักษาโรคย้ำคิดย้ำทำที่ดื้อการรักษา เมื่อยา serotonin reuptake inhibitor ไม่พอเพียง

ยาไม่มีหลักฐานว่ามีประโยชน์ต่อการรักษาความผิดปกติในการรับประทาน (eating disorder) และความผิดปกติทางบุคลิกภาพ

แม้ว่ายารักษาโรคจิตเช่นริสเพอริโดน จะมีประโยชน์เล็กน้อยกับคนไข้ภาวะสมองเสื่อม (dementia) แต่ก็สัมพันธ์กับอัตราการตายและโรคหลอดเลือดสมองที่สูงขึ้น เพราะความเสี่ยงตายที่สูงขึ้น การรักษาอาการโรคจิต (psychosis) ที่เกี่ยวกับภาวะสมองเสื่อมจึงไม่ได้รับอนุมัติจากองค์การอาหารและยาสหรัฐ

ผลที่ไม่พึงประสงค์

ปฏิสัมพันธ์กับสารอื่น ๆ

  • คาร์บามาเซพีนและยาเสริมเอนไซม์ (enzyme inducer) อื่น ๆ อาจจะลดระดับริสเพอริโดนในน้ำเลือด ดังนั้น ถ้ากำลังทานทั้งยาคาร์บามาเซพีนและริสเพอริโดน อาจจะต้องเพิ่มขนาดของริสเพอริโดน ซึ่งไม่ควรจะเกินกว่า 2 เท่าจากดั้งเดิม
  • ส่วนยาที่ยับยั้งเอนไซม์ CYP2D6 เช่นยากลุ่ม SSRI อาจเพิ่มระดับริสเพอริโดนในน้ำเลือด
  • เพราะริสเพอริโดนอาจทำให้ความดันโลหิตต่ำ จึงควรสอดส่องระมัดระวังถ้าคนไข้กำลังทานยาลดความดันเพื่อป้องกันความดันต่ำเกิน
  • มีรายงานว่าการใช้ริสเพอริโดนร่วมกับยากลุ่ม SSRI มีผลให้เกิดเซโรโทนินเป็นพิษ (serotonin syndrome)

การหยุดยา

หนังสือการจ่ายยาของสหราชอาณาจักร (British National Formulary) แนะนำให้ลดยารักษาโรคจิตอย่างช้า ๆ เพื่อเลี่ยงอาการขาดยาแบบฉับพลันหรือโรคกำเริบอย่างรวดเร็ว นักวิชาการบางท่านอ้างว่า อาการอื่นทางกายและทางจิตเวชที่เกี่ยวกับความไวของระบบโดพามีนในระดับสูง รวมทั้ง อาการยึกยือเหตุยา (dyskinesia) และอาการโรคจิตฉับพลัน (acute psychosis) เป็นอาการขาดยาที่สามัญในบุคคลผู้รักษาด้วยยากลุ่ม neuroleptics ซึ่งทำให้นักวิชาการบางท่านเสนอว่า กระบวนการขาดยาเองอาจจะเลียนอาการโรคจิตเภท เพราะว่าคนไข้ที่ก่อนหน้านี้ไม่มีโรคก็เกิดอาการโรคจิตเภทด้วย ซึ่งแสดงความเป็นไปได้ของโรคจิตเหตุยาในคนไข้ที่ปัจจุบันหรือที่อดีตรักษาด้วยยารักษาโรคจิตในระดับอัตราที่ยังไม่ปรากฏ ประเด็นนี้ยังไม่มีข้อยุติ และเป็นเรื่องสร้างความขัดแย้งในระดับสูงสำหรับวงการแพทย์และสุขภาพจิต และในสาธารณชน

ภาวะสมองเสื่อม

ผู้สูงอายุที่มีอาการโรคจิต (psychosis) ที่สัมพันธ์กับภาวะสมองเสื่อม มีความเสี่ยงตายสูงกว่าถ้าได้ยาริสเพอริโดนเทียบกับคนที่ไม่ได้ การตายมักจะสัมพันธ์ปัญหาหรือการติดเชื้อทางหัวใจ

เภสัชวิทยา

เภสัชจลนศาสตร์

ริสเพอริโดนจะผ่านการสลายตัวในตับและการขับออกทางไต แนะนำให้ใช้ยาขนาดต่ำสำหรับคนไข้ที่มีโรคตับหรือไตหนัก เมแทบอไลต์ออกฤทธิ์ของยา คือ paliperidone ก็ใช้เป็นยารักษาโรคจิตเหมือนกัน (antipsychotic)

เภสัชพลศาสตร์ของริสเพอริโดนโดยไม่รวมการยับยั้งเอนไซม์ D-amino acid oxidase

เภสัชพลศาสตร์

ริสเพอริโดนจัดโดยสถิติว่าเป็นยา atypical antipsychotic ที่มีความชุกปัญหาการเคลื่อนไหว (Extrapyramidal symptoms) ต่ำเมื่อให้ในขนาดต่ำ โดยเป็นปฏิปักษ์ต่อระบบเซโรโทนิน (serotonin antagonism) มากกว่าระบบโดพามีน ยามีหมู่ทำหน้าที่ (functional group) คือ benzisoxazole และ piperidine เป็นส่วนโครงสร้างทางเคมี แม้ว่าจะไม่มีโครงสร้างของ butyrophenone แต่ยาก็พัฒนาขึ้นโดยใช้โครงสร้างของ benperidol และ ketanserin เป็นมูลฐาน และมีฤทธิ์ต่อตัวรับแบบ 5-HT (serotonin) ต่าง ๆ รวมทั้ง 5-HT2C ซึ่งสัมพันธ์กับการเพิ่มน้ำหนัก และ 5-HT2A ซึ่งสัมพันธ์กับฤทธิ์รักษาโรคจิตและบรรเทาผลข้างเคียงแบบ extrapyramidal ที่มักจะมีกับยาแบบ typical neuroleptic ต่าง ๆ

พึ่งพบเมื่อปี 2553 ว่า ยามีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ D-amino acid oxidase ซึ่งเร่งปฏิกิริยาการสลายตัวของ D-amino acids (เช่น สารสื่อประสาทแบบ D-alanine และ D-serine)

ยาออกฤทธิ์ต่อตัวรับดังต่อไปนี้

  • ตัวรับโดพามีน - เป็นสารปฏิปักษ์ต่อตัวรับในตระกูล D1 (คือ D1 และ D5) บวกกับ D2 (คือ D2, D3 และ D4) ยามีฤทธิ์ยึดแบบแน่น ซึ่งหมายความว่ามีระยะครึ่งชีวิตนาน และเหมือนกับยารักษาโรคจิตอื่น ๆ ยายับยั้งวิถีประสาท mesolimbic pathway, prefrontal cortex limbic pathway, และ tuberoinfundibular pathway ในระบบประสาทกลาง ยาอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงแบบ extrapyramidal คือ อาการนั่งไม่ติดที่และสั่น ที่สัมพันธ์กับการลดการทำงานของระบบโดพามีนใน striatum อาจมีผลข้างเคียงทางเพศ คือ น้ำนมไหลที่ไม่เกี่ยวกับการคลอด ความเป็นหมัน เต้านมชายโต และถ้าใช้เป็นระยะยาว ลดความหนาแน่นของกระดูกที่สัมพันธ์กับการปล่อยฮอร์โมนโพรแลกติน (ที่ทำให้นมไหล) ที่เพิ่มขึ้น
  • ตัวรับเซโรโทนิน ฤทธิ์ของยาที่ตัวรับเหล่านี้อาจทำให้ยามีผลข้างเคียงแบบ extrapyramidal น้อยกว่า (ผ่าน 5-HT2A/2C receptors) เมื่อเทียบกับยา typical antipsychotics ยกตัวอย่างเช่น haloperidol ฤทธิ์เป็นปฏิปักษ์ต่อตัวรับ 5-HT2C อาจมีส่วนทำให้มีผลเป็นน้ำหนักเพิ่ม
  • ตัวรับ Alpha α1 adrenergic เป็นฤทธิ์ที่ทำให้ความดันต่ำเมื่อยืน และอาจมีผลเป็นส่วนระงับประสาท (sedating)
  • ตัวรับ Alpha α2 adrenergic อาจเป็นเหตุให้มีผลข้างเคียงที่น้อยกว่าหรือมากกว่าทางอารมณ์และทางการรู้คิด
  • ตัวรับฮิสตามีน H1 ฤทธิ์อาจจะอธิบายการระงับประสาทและการลดความระมัดระวัง ซึ่งอาจทำให้ง่วงและน้ำหนักเพิ่ม

แม้ว่ายานี้จะมีผลเหมือนกับยารักษาโรคจิตทั้งแบบ typical และ atypical อื่น ๆ แต่มันก็ไม่มีสัมพรรคภาพ (affinity) กับตัวรับแบบ muscarinic acetylcholine ในหลาย ๆ ด้าน ยานี้อาจจะมีประโยชน์เป็น "acetylcholine release-promoter" คล้ายกับยากระเพาะลำไส้เช่น metoclopramide และ cisapride

ตัวรับ Binding Affinity
(Ki [nM])
ฤทธิ์
5-HT1A 423 Antagonist
5-HT1B 14.9 Antagonist
5-HT1D 84.6 Antagonist
5-HT2A 0.17 Inverse agonist
5-HT2B 61.9 Inverse agonist
5-HT2C 12.0 Inverse agonist
5-HT5A 206 Antagonist
5-HT6 2,060 Antagonist
5-HT7 6.60 Irreversible (or pseudo-irreversible) antagonist
D1 244 Antagonist
D2 3.57 Antagonist
D2S 4.73 Antagonist
D2L 4.16 Antagonist
D3 3.6 Inverse agonist
D4 4.66 Antagonist
D5 290 Antagonist
α1A 5.0 Antagonist
α1B 9.0 Antagonist
α2A 16.5 Antagonist
α2B 108 Antagonist
α2C 1.30 Antagonist
mAChRs >10,000 Negligible
H1 20.1 Inverse agonist
H2 120 Inverse agonist
Risperdal (ริสเพอริโดน) 4 มก. (สหราชอาณาจักร)

สังคมและวัฒนธรรม

การควบคุมในสหรัฐอเมริกา

องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา (FDA) อนุมัติให้ใช้ยารักษาโรคจิตเภทในปี พ.ศ. 2536 ในปี 2550 เป็นยาเดียวที่อนุมัติให้รักษาโรคจิตเภทในเด็กอายุระหว่าง 13-17 ปี และอนุมัติให้ใช้รักษาโรคอารมณ์สองขั้วในเด็กอายุ 10-17 ปี เพิ่มจากยา lithium ที่ได้ใช้มาก่อน ในปี 2546 FDA อนุมัติให้ใช้รักษาระยะฟุ้งพล่าน (manic) หรือผสม (mixed) ที่สัมพันธ์กับโรคอารมณ์สองขั้วในระยะสั้น ในปี 2549 FDA อนุมัติให้ใช้บำบัดความหงุดหงิดในเด็กและวัยรุ่นที่มีโรคออทิซึม โดยมีเหตุส่วนหนึ่งจากงานศึกษาในคนไข้โรคออทิซึมที่มีปัญหารุนแรงและคงยืนเกี่ยวกับความรุนแรง ความก้าวร้าว และการทำร้ายตัวเอง แต่ว่า ไม่แนะนำให้ใช้ยาในคนไข้ที่มีความก้าวร้าวขั้นเบาและพฤติกรรมที่ระเบิดขึ้นแต่ไม่คงยืน

การวางตลาด

สิทธิบัตรยาของบริษัท Janssen หมดอายุวันที่ 29 ธันวาคม 2546 ซึ่งเปิดโอกาสให้บริษัทอื่นวางขายยาสามัญ และสิทธิในการวางตลาดเพียงผู้เดียวทั้งหมดของบริษัทก็หมดลงในวันที่ 29 มิถุนายน 2547 (เพราะได้เวลาขยายเนื่องจากใช้เป็นยาเพื่อเด็ก) เป็นยาที่ขายโดยมีชื่อการค้าต่าง ๆ ทั่วโลก มีเป็นยาเม็ด ยาน้ำ และเป็นแบบขวดที่ใช้สำหรับฉีด

คดีในศาล

วันที่ 11 เมษายน 2555 บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และบริษัทย่อย Janssen Pharmaceutica ถูกศาลชั้นกลางของรัฐอาร์คันซอปรับ 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 37,059 ล้านบาท) โดยคณะลูกขุนพบว่า บริษัทไม่ให้ความสำคัญกับความเสี่ยงหลายอย่างที่สัมพันธ์กับยา Risperdal แต่ต่อมาศาลสูงสุดของรัฐได้กลับคำพิพากษานั้น

ตามหนังสือพิมพ์ เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล วันที่ 20 มิถุนายน 2555 "จอห์นสันและจอห์นสัน และกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ ใกล้ถึงข้อตกลงในเรื่องการสืบสวนการโปรโหมตยารักษาโรคจิต Risperdal ที่ได้ทำเป็นระยะเวลายาวนาน โดยเป็นค่าปรับที่สูงสุดเกี่ยวกับการวางตลาดยาเท่าที่เคยมี ทุกฝ่ายพยายามจะรวมคดีในศาลจำนวนหนึ่ง การสืบสวนระดับรัฐ และการตรวจสอบอื่น ๆ เกี่ยวกับข้อกล่าวหาการวางตลาดที่ผิดกฎหมาย และกำลังต่อรองการจ่ายเงินจำนวน 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือสูงกว่านั้น" ซึ่งในที่สุดบริษัทก็ถูกปรับ 2,200 ล้านเหรียญ (ประมาณ 69,366 ล้านบาท)

ในเดือนสิงหาคม 2555 บริษัทตกลงจ่าย 181 ล้านเหรียญสหรัฐแก่มลรัฐ 36 รัฐเพื่อยุติการฟ้องคดีว่า บริษัทได้โปรโหมตยาเพื่อใช้ในการรักษานอกป้ายรวมทั้ง ภาวะสมองเสื่อม การจัดการความโกรธ และโรควิตกกังวล

แหล่งข้อมูลอื่น


Новое сообщение