Мы используем файлы cookie.
Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.

โอเมปราโซล

Подписчиков: 0, рейтинг: 0
โอเมปราโซล
Omeprazole.svg
Omeprazole-3D-balls.png
ข้อมูลทางคลินิก
การอ่านออกเสียง /ˈmɛprəzl/
ชื่อทางการค้า Losec, Prilosec, Zegerid, อื่น ๆ
AHFS/Drugs.com โมโนกราฟ
ข้อมูลทะเบียนยา
ระดับความเสี่ยงต่อทารกในครรภ์
  • AU: B3
  • US: C (ยังไม่ชี้ขาด)
ช่องทางการรับยา ปาก หลอดเลือดดำ
ประเภทยา ยายับยั้งการหลั่งกรด
รหัส ATC
กฏหมาย
สถานะตามกฏหมาย
ข้อมูลเภสัชจลนศาสตร์
ชีวประสิทธิผล 35-76%
การจับกับโปรตีน 95%
การเปลี่ยนแปลงยา ตับ (CYP2C19, CYP3A4)
ครึ่งชีวิตทางชีวภาพ 1-1.2 ชม.
การขับออก 80% (ปัสสาวะ)
20% (อุจจาระ)
ตัวบ่งชี้
  • 5-Methoxy-2-[(4-methoxy-3,5-dimethylpyridin-2-yl)methanesulfinyl]-1H-benzimidazole
เลขทะเบียน CAS
PubChem CID
IUPHAR/BPS
DrugBank
ChemSpider
UNII
KEGG
ChEBI
ChEMBL
PDB ligand
ECHA InfoCard 100.122.967
ข้อมูลทางกายภาพและเคมี
สูตร C17H19N3O3S
มวลต่อโมล 345.42 กรัม/โมล
แบบจำลอง 3D (JSmol)
ไครัลลิตี Racemic mixture
ความหนาแน่น 1.4±0.1 g/cm3
จุดหลอมเหลว 156 องศาเซลเซียส (313 องศาฟาเรนไฮต์)
  • Cc1c(OC)c(C)cnc1CS(=O)c2nc3ccc(OC)cc3n2
  • InChI=1S/C17H19N3O3S/c1-10-8-18-15(11(2)16(10)23-4)9-24(21)17-19-13-6-5-12(22-3)7-14(13)20-17/h5-8H,9H2,1-4H3,(H,19,20) Yes check.svg 7
  • Key:SUBDBMMJDZJVOS-UHFFFAOYSA-N Yes check.svg 7
  (verify)
Pharmaklog.png สารานุกรมเภสัชกรรม

โอเมปราโซล (อังกฤษ: omeprazole) ซึ่งขายในยี่ห้อต่าง ๆ เช่น Prilosec และ Losec เป็นยารักษาโรคกรดไหลย้อน โรคแผลเปื่อยเพปติก/แผลในกระเพาะอาหาร (peptic ulcer disease) และภาวะกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไป (Zollinger-Ellison syndrome) ทั้งยังใช้ป้องกันเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนบนสำหรับผู้ที่เสี่ยงมาก เป็นยาที่ใช้รับประทานหรือฉีดเข้าในเส้นเลือด

ผลข้างเคียงโดยทั่วไป เป็นต้นว่า คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ และลมในทางเดินอาหาร/ท้องอืด ส่วนผลข้างเคียงอย่างหนัก เป็นต้นว่า ลำไส้ใหญ่อักเสบเนื่องจากเชื้อโรค Clostridium difficile ความเสี่ยงเกิดปอดบวมสูงขึ้น ความเสี่ยงกระดูกแตก/หักสูงขึ้น และมะเร็งกระเพาะอาหารถูกการอำพราง นอกจากนี้ ไม่ชัดเจนว่า ยานี้ปลอดภัยเมื่อใช้ตอนตั้งครรภ์หรือไม่ และเนื่องจากเป็นยายับยั้งการหลั่งกรด (PPI) จึงมีฤทธิ์ระงับการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร

ยานี้ได้รับการค้นพบใน ค.ศ. 1979 เป็นยาจำเป็นในรายการขององค์การอนามัยโรค ถือเป็นยาที่มีประสิทธิผลและปลอดภัยที่สุดที่จำเป็นในระบบสาธารณสุข และเป็นยาที่หมดอายุสิทธิบัตรแล้ว สำหรับราคาขายส่งในประเทศกำลังพัฒนานั้น ใน ค.ศ. 2014 อยู่ที่ 0.01-0.07 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 0.32-2.27 บาท) ต่อเม็ด ในสหรัฐอเมริกา ราคาขายปลีกโดยเฉลี่ยใน ค.ศ. 2016 อยู่ที่ 0.50 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 18 บาท)

การใช้ในการแพทย์

ข้อมูลเพิ่มเติม: ยายับยั้งการหลั่งกรด

ยาสามารถใช้รักษาโรคกรดไหลย้อน (GERD), แผลเปื่อยเพปติก/แผลในกระเพาะอาหาร (peptic ulcers), หลอดอาหารอักเสบเหตุกร่อน (erosive esophagitis), Zollinger-Ellison syndrome, และหลอดอาหารอักเสบแบบชอบอีโอซิโนฟิล (eosinophilic esophagitis)

การใช้ยา

เป็นยาชนิดเม็ดใช้สำหรับรับประทาน การหยุดใช้ยาต้องปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อน ไม่ควรแบ่งหรือเคี้ยวเม็ดยา ควรกลืนยาทั้งเม็ด

ในผู้จำเป็นต้องใช้ยาทั่วไปรับประทานวันละ 1 ครั้ง เป็นเวลา 4-8 สัปดาห์ ส่วนการใช้เพื่อรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ควรใช้ยาหลังอาหารเช้า

การใช้ยาร่วมกับยาอื่น ๆ เพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย H. Pylori ในกระเพาะอาหาร รับประทานวันละ 2 ครั้ง หรือให้ใช้ยาตามที่ระบุไว้ในฉลาก

การใช้ยาควรระมัดระวังกับผู้ป่วยโรคตับ สตรีมีครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร นอกจากนี้ฤทธิ์ของยายังอาจบดบังอาการของมะเร็งกระเพาะอาหารจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ และควรมีการวินิจฉัยแยกโรคมะเร็งกระเพาะอาหารก่อนการรักษาด้วยยานี้

แผลเปื่อยเพปติก/แผลในกระเพาะอาหาร

แผลเปื่อยเพปติก/แผลในกระเพาะอาหารสามารถรักษาได้ด้วยยานี้ การรักษาการติดเชื้อ Helicobacter pylori ทำได้ด้วยยา 3 อย่าง คือ ยานี้ อะม็อกซีซิลลิน และคลาริโทรมัยซินเป็นเวลา 7-14 วัน แต่ก็อาจแทนอะม็อกซีซิลลินด้วย metronidazole สำหรับคนไข้ที่แพ้เพนิซิลลิน

ผลไม่พึงประสงค์

ผลไม่พึงประสงค์สำคัญซึ่งเกิดบ่อยที่สุดโดยเกิดในคนไข้อย่างน้อย 1% รวมทั้ง

ปัญหาอื่น ๆ ที่เนื่องกับผลที่ไม่พึงประสงค์รวมทั้ง

  • การเกิดอาการท้องร่วงเนื่องจากเชื้อ Clostridium difficile ซ้ำ ๆ
  • กระดูกหัก/แตกเนื่องกับภาวะกระดูกพรุน
  • ภาวะแมกนีเซียมในเลือดน้อยเกิน (hypomagnesemia)

มีงานศึกษาที่ยกประเด็นเรื่องการดูดซึมวิตามินบี12 และธาตุเหล็กได้ไม่ดี แต่ผลดูเหมือนจะไม่มาก โดยเฉพาะเมื่อให้อาหารเสริมเพิ่ม

ตั้งแต่ได้เริ่มใช้ ยายับยั้งการหลั่งกรด (PPI) โดยเฉพาะยานี้ ได้สัมพันธ์กับกรณีไตอักเสบ (acute interstitial nephritis) หลายกรณี ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ต่อยา

การใช้ PPI ในระยะยาวสัมพันธ์อย่างมีกำลังกับการเกิดติ่งเนื้อเมือกที่ไม่ร้าย (benign polyp) จากต่อมส่วนกระพุ้งกระเพาะ (fundic gland) (ซึ่งต่างจาก fundic gland polyposis) ติ่งเหล่านี้ไม่ได้ก่อมะเร็งและจะหายไปเองเมื่อหยุดใช้ยา ยังไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างการใช้ PPI กับมะเร็ง แต่การใช้ยาก็อาจอำพรางมะเร็งกระเพาะอาหารหรือปัญหากระเพาะปัญหาที่หนักอื่น ๆ ซึ่งแพทย์จะต้องคอยระวัง

งานทบทวนวรรณกรรมปี 2017 พบความสัมพันธ์ของการใช้ยา PPI ระยะยาวกับสภาวะต่าง ๆ ในระดับไม่เท่ากันคือ

การตั้งครรภ์และการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ข้อมูลทางวิทยาการระบาดไม่แสดงความเสี่ยงพิการที่สูงขึ้นของทารก ยังไม่มีการทดลองทางคลินิกซึ่งประเมินผลที่อาจเป็นไปได้อย่างถ้วนถี่สำหรับการใช้ยาเมื่อเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่เภสัชพลวัต (pharmacokinetics) ของโมเลกุลยา แสดงนัยอย่างมีกำลังว่า ปลอดภัยสำหรับใช้เมื่อเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คือ

  • ยาจับกับโปรตีนพลาสมาในอัตราที่สูง (95%) ซึ่งแสดงว่า จะถ่ายโอนไปยังท่อหลั่งน้ำนม (milk duct) น้อยมาก เมื่อร่างกายผลิตนม
  • ยาต้องเคลือบกันกรดกระเพาะอาหาร (enteric coating) เพราะสลายอย่างรวดในภาวะกรดภายในกระเพาะ ซึ่งแสดงนัยว่า ทารกจะย่อยสลายโมเลกุลอิสระของยาโดยมากก่อนที่จะดูดซึมเข้าร่างกาย

ดังนั้น ยาในขนาดธรรมดาน่าจะปลอดภัยในช่วงการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่

ปฏิสัมพันธ์

ขนาดและขวดของยายี่ห้อ Omeprazol Actavis 20 มก

ปฏิสัมพันธ์ที่สำคัญกับยาอื่น ๆ เกิดน้อยมาก แต่ปัญหาสำคัญสุดเป็นการลดฤทธิ์ของยาลดความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง คือ clopidogrel เมื่อรับประทานพร้อม ๆ กับโอเมปราโซล แม้ผลที่เกิดจะยังเป็นเรื่องไม่ยุติ แต่ก็อาจเพิ่มโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจวายสำหรับคนที่รับประทานยา clopidogrel เพื่อป้องกันเหตุการณ์เช่นนี้

ปฏิสัมพันธ์เยี่ยงนี้เป็นไปได้ก็เพราะยาเป็นสารยับยั้งเอนไซม์ CYP2C19 และ CYP3A4 และยา clopidogrel อยู่ในรูปแบบที่ไม่มีฤทธิ์ซึ่งต้องผ่านเมแทบอลิซึมอาศัย CYP2C19 เพื่อเปลี่ยนให้เป็นรูปแบบที่มีฤทธิ์ ดังนั้น การยับยั้ง CYP2C19 จึงอาจระงับฤทธิ์ของ clopidogrel ซึ่งก็จะลดผลของมัน

อนึ่ง เบ็นโซไดอาเซพีนเกือบทั้งหมดก็ต้องผ่านผ่านเมแทบอลิซึมอาศัยเอนไซม์ CYP3A4 และ CYP2D6 และการยับยั้งเอนไซมเหล่านี้จะมีผลเพิ่ม AUC ของเบ็นโซไดอาเซพีน ซึ่งก็คือเพิ่มผลรวมของยาตามเวลาสำหรับขนาดยาหนึ่ง ๆ ตัวอย่างยาที่อาศัย CYP3A4 เพื่อเมแทบอลิซึมอีกอย่างก็คือยาแก้ซึมเศร้า escitalopram, สารกันเลือดเป็นลิ่มคือวาร์ฟาริน, ยาแก้ปวดต่าง ๆ รวมทั้งออกซิโคโดน ทรามาดอล และ oxymorphone คือ ความเข้นข้นของยาเหล่านี้อาจเพิ่มเมื่อใช้ร่วมกับโอเมปราโซล

ยายังระงับการทำงานของโปรตีน p-glycoprotein เหมือนกับยายับยั้งการหลั่งกรด (PPI) อื่น ๆ

ยาที่อาศัยสภาพกรดในกระเพาะอาหาร (เช่น คีโตโคนาโซลและ atazanavir) อาจดูดซึมได้ไม่ดี และยาปฏิชีวนะที่ไม่เสถียรเนื่องจากสภาพกรด (เช่น อิริโทรมัยซิน ซึ่งเป็นสารยับยั้ง CYP3A4 ที่มีฤทธิ์สูงมาก) อาจดูดซึมได้มากกว่าปกติเนื่องจากสภาวะที่เป็นด่างมากกว่าปกติของกระเพาะเมื่อรับประทานยานี้ สมุนไพร Hypericum perforatum (St. John's wort) และ Gingko biloba สามารถลดความเข้มข้นของโอเมปราโซลในพลาสมาอย่างสำคัญผ่านกระบวนการเหนี่ยวนำ (induction) ของ CYP3A4 และ CYP2C19

PPI ต่าง ๆ เช่น โอเมปราโซล พบว่า เพิ่มความเข้มข้นในพลาสมาของสารเคมีบำบัดและสารระงับภูมิคุ้มกันคือ methotrexate

เภสัชวิทยา

กลไกการทำงาน

ยาเป็นสารยับยั้งการหลั่งกรด (PPI) ที่จำเพาะเจาะจง (selective) และผันกลับไม่ได้ (irreversible) คือมันยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ H+/K+-ATPase ซึ่งพบที่ผิวของ parietal cell ในกระเพาะโดยเฉพาะ ระบบเอนไซม์นี้มองได้ว่า เป็นปัมพ์ของการหลั่งกรด (proton หรือ H+) ในเยื่อเมือกกระเพาะ ดังนั้น ยาจึงยับยั้งขั้นตอนสุดท้ายของการผลิตกรดในกระเพาะอาหาร โดยระงับทั้งการหลั่งกรดพื้นฐานและการหลั่งกรดเมื่อได้อาหารเป็นตัวกระตุ้น

ยามีผลยับยั้งภายในหนึ่ง ชม. หลังได้ยา โดยให้ผลสูงสุดภายใน 2 ชม. และอาจมีฤทธิ์นานถึง 72 ชม. ผลยับยั้งกรดของยาจะไม่เพิ่มอีกหลังจาก 4 วันที่รับประทานยาซ้ำ ๆ เมื่อหยุดใช้ยา การหลั่งกรดกระเพาะอาหารจะกลับคืนปกติภายใน 3-5 วัน

เภสัชพลวัต (Pharmacokinetics)

ลำไส้เล็กเป็นจุดดูดซึม ซึ่งเสร็จภายใน 3-6 ชม. เมื่อได้ใช้ยาแล้วอย่างซ้ำ ๆ สภาพพร้อมใช้ทางชีวภาพ (bioavailability) จะอยู่ที่ 60% เหมือนกับยายับยั้งการหลั่งกรดอื่น ๆ ยาจะมีผลต่อระบบเอนไซม์ H+/K+-ATPase ซึ่งมีสภาพกัมมันต์เท่านั้น อาหารเป็นตัวกระตุ้นให้เอนไซม์เริ่มทำงานเพื่อช่วยย่อยอาหาร เพราะเหตุนี้ จึงแนะนำให้คนไข้รับประทานยาเมื่อท้องว่าง เช่นผู้ผลิตรายหนึ่งแนะนำให้รับประทานพร้อมกับน้ำเปล่าแก้วหนึ่งโดยไม่รวมน้ำอื่น ๆ หรืออาหาร

อนึ่ง แหล่งอ้างอิงโดยมากแนะนำว่า หลังจากรับประทานยา ให้รอ 30 นาทีก่อนรับประทานข้าว (อย่างน้อย 60 นาทีสำหรับยาที่ไม่ได้เคลือบกันกรดแต่ใช้บวกกับสารทำให้เป็นด่างในกลุ่มโซเดียมไบคาร์บอเนต) แม้ก็มีบางแห่งที่กล่าวว่า มีรูปแบบแคปซูลที่รับประทานพร้อมกับอาหารได้เลย

เมแทบอลิซึมของยาจะเกิดผ่านอาศัยเอนไซม์ cytochrome P450 อย่างสิ้นเชิง โดยหลักในตับ เมแทบอไลต์ที่ได้ระบุแล้วรวมทั้ง sulfone, sulfide, และ hydroxy-omeprazole ซึ่งล้วนแต่ไม่มีผลต่อการหลั่งกรด ยาประมาณ 80% ที่รับประทานจะขับออกเป็นเมแทบอไลต์ในปัสสาวะ และที่เหลือจะพบในอุจจาระโดยหลักจากน้ำดี

เคมี

ค่าวัดในร่างกาย

ยาสามารถวัดในน้ำเลือดหรือในซีรั่มเพื่อตรวจผลการรักษา หรือเพื่อยืนยันการวินิจฉัยว่าคนไข้ที่ได้ยาเกิน ความเข้มข้นของยาในเลือดปกติจะอยู่ระหว่าง 0.2-1.2 มิลลิกรัม/ลิตร ในคนไข้ผู้ได้ยาปกติและ 1-6 มก./ลิตร สำหรับคนไข้ที่ได้ยาเกิน มีวิธีการทางโครมาโทกราฟี (enantiomeric chromatography) ต่าง ๆ ที่สามารถใช้แยก esomeprazole จากโอเมปราโซล

ประวัติ

บริษัท Astra AB (ปัจจุบัน AstraZeneca) ได้วางขายยาในตลาดเป็นครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาในปี 1989 โดยมียี่ห้อว่า Losec ในปี 1990 องค์กรอาหารและยาสหรัฐ (FDA) ให้บริษัทเปลี่ยนยี่ห้อเป็น Prilosec เพื่อไม่ให้สับสนกับยาขับปัสาวะคือ Lasix แต่ก็ยังสับสนกับยาแก้ซึมเศร้า คือ Prozac อยู่ดี เมื่ออายุสิทธิบัตรของยาหมดในเดือนเมษายน 2001 บริษัทก็เริ่มวางขาย esomeprazole (ยี่ห้อ Nexium) เป็นยาทดแทนโดยยังมีสิทธิบัตร บริษัทจำนวนมากได้วางตลาดขายยาที่หมดสิทธิบัตรทั่วโลก โดยมียี่ห้อต่าง ๆ มากมาย

โอเมปราโซลขนาด 10 มก. ในสหราชอาณาจักร

รูปแบบยา

ยามีขายเป็นเม็ดและแคปซูล (ซึ่งมีโอเมปราโซล หรือยาในรูปแบบแมกนีเซียม) ในขนาดต่าง ๆ รวมทั้ง 10, 20, 40, และในบางที่ 80 มก. และเป็นยาผง (omeprazole sodium) เพื่อใช้ฉีดในเส้นเลือด ยาสำหรับรับประทานโดยมากจะเคลือบกันกรดกระเพาะอาหาร (enteric coating) เนื่องจากยาจะสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อเจอสภาพกรดในกระเพาะ คือปกติจะเคลือบเป็นเม็ดเล็ก ๆ แล้วบรรจุภายในแคปซูล หรือเป็นยาเม็ดเคลือบ หรือใช้ระบบ MUPS มีรูปแบบยาที่ปล่อยทันที (immediate release) โดยประกอบกับสารบัฟเฟอร์ จึงไม่จำเป็นต้องเคลือบกันกรดกระเพาะ

มีแพ็คยาสำหรับฉีดเข้าเส้นเลือดด้วยโดยมียาขวดหนึ่งและหลอดสารละลายอีกหลอดหนึ่ง ในขวดจะมียาเป็นผงออกสีขาว ๆ ซึ่งมี omeprazole sodium 42.6 มก. ซึ่งเท่ากับโอเมปราโซล 40 มก.

อนึ่ง มียาน้ำแบบเป็นสารแขวนลอย โดยสารจะเป็นเม็ดยาเคลือบกันกรดกระเพาะ เป็นยาที่โดยหลักให้แก่เด็ก แต่คนไข้ที่มีปัญหาการกลืนก็สามารถใช้ยานี้ได้

ดูเพิ่ม

เชิงอรรถ

แหล่งข้อมูลอื่น


Новое сообщение