Мы используем файлы cookie.
Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.

สื่อลามกเกย์

Подписчиков: 0, рейтинг: 0
รูปภาพนักแสดงและทีมงานขณะกำลังเตรียมตัวถ่ายทำภาพยนตร์ลามกเกย์เรื่องเม็นออฟอิสราเอล

สื่อลามกเกย์ (อังกฤษ: gay pornography) คือ สื่อลามกที่นำเสนอพฤติกรรมทางเพศระหว่างผู้ชายกับผู้ชาย ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้ผู้รับชมเกิดอารมณ์ทางเพศในระหว่างการรับชม

สื่อลามกเกย์นี้ยังหมายถึงภาพยนตร์ลามกเกย์ในรูปแบบซอฟต์คอร์ ซึ่งเป็นสื่อลามกที่แสดงให้เห็นถึงฉากทางเพศแต่ไม่ได้มีการเปิดเผยเรือนร่างหรือพฤติกรรมทางเพศทั้งหมด ทั้งนี้ ภาพยนตร์ประเภทนี้อาจจะมีการนำเสนอผู้ชายในลักษณะรูปแบบบีฟเค้ก ซึ่งสามารถตอบสนองอารมณ์ทางเพศของทั้งผู้หญิงรักต่างเพศและผู้ชายรักร่วมเพศ

จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์พบว่าสื่อลามกเกย์เกิดขึ้นตั้งแต่ยุคกรีซโบราณผ่านรูปภาพแนวโฮโมอีโรติกซึ่งเป็นงานศิลป์ที่สะท้อนให้เห็นถึงความหลงใหลในเพศเดียวกันผ่านรูปวาดของศิลปิน อย่างไรก็ตามในปัจจุบันสื่อลามกเกย์ได้พัฒนาทั้งในรูปแบบแผ่นดีวีดี กล่องรับสัญญาณ และเครือข่ายสัญญาณไร้สาย ซึ่งถ่ายทอดผ่านทางอินเทอร์เน็ตในรูปแบบภาพและวิดีโอ

สื่อลามกเกย์ในสหรัฐ

The Swimming Hole (1884–85) รูปภาพโฮโมอีโรติกโดยศิลปินชาวอเมริกัน ทอมัส เอคินส์ (1844–1916)

เริ่มแรกศิลปะในรูปแบบโฮโมอีโรติกถือเป็นสื่อลามกเกย์ชิ้นแรกที่ใช้กันมานานยาวนานจนกระทั่งได้เริ่มมีพัฒนาการของสื่อในด้านของรูปภาพและภาพยนตร์เกิดขึ้น ในช่วงแรกสื่อลามกทุกชนิดถือเป็นของใต้ดินเนื่องจากกฎหมายของสหรัฐที่ยังไม่รองรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสื่อที่นำเสนอภาพลักษณ์ของชายรักร่วมเพศอาจถูกดำเนินคดีอย่างรุนแรง ดังนั้นในช่วงทศวรรษที่ 1940 และ 1950 สื่อลามกเกย์โดยส่วนใหญ่จะเป็นรูปภาพของนักกีฬาเพาะกายผู้ชาย โดยรูปภาพอาจจะมีเปิดแบบเรือนร่างทั้งหมดหรือสวมใส่เพียงแค่ชุดชั้นในชาย The Athletic Model Guild (AMG) ถือเป็นสตูดิโอแห่งแรกในสหรัฐที่ผลิตสื่อลามกเกย์สำหรับเชิงพาณิชย์ที่ถูกก่อตั้งโดย Bob Mizer ในปีค.ศ. 1945 โดยสื่อลามกอนาจารเกย์ชิ้นแรกที่สตูดิโอแห่งนี้ผลิตคือนิตยสาร Physique Pictorial ในปี ค.ศ. 1951 นิตยสารหัวนี้ได้ใส่รูปภาพของ Tom of Finland เพิ่มเข้าไปหลายฉบับ

ช่วงทศวรรษที่ 1960 และ 1970 การใช้กล้องฟิล์มขนาด 16 มม. ที่มีการใช้แพร่หลายมากขึ้นส่งผลทำให้สื่อลามกอนาจารเกย์เริ่มมีความหลากหลายมากขึ้นโดยเฉพาะในรูปแบบภาพยนตร์ การขายสื่อเหล่านี้นั้นส่วนใหญ่จะส่งขายผ่านทางไปรษณีย์หรือช่องทางที่ผู้คนไม่สามารถพบเห็นได้ ในช่วงแรกนักแสดงภาพยนตร์ลามกเกย์และค่ายภาพยนตร์จะนิยมออกเดินทางไปยังโรงแรมในเมืองต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกา เพื่อขายสื่อลามก โดยการรับรู้จะเป็นการบอกเล่าแบบปากต่อปาก หรือการโฆษณาผ่านทางนิตยสาร แต่ในระหว่างช่วงทวรรษที่ 1960 นั้นศาลสูงสุดของสหรัฐได้เริ่มมีการพิจารณาและให้การค้าขายสื่อลามกอนาจารถูกกฎหมายมากขึ้น ซึ่งภาพยนตร์เรื่อง Boys in the Sand ก็ถือเป็นภาพยนตร์ลามกเกย์เรื่องแรกในสหรัฐที่ได้เข้าฉายครั้งแรกในเดือนธันวาคม ค.ศ.1971 ที่โรงภาพยนตร์ในนิวยอร์ก ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ถือเป็นภาพยนตร์ลามกที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

การผลิตภาพยนตร์ลามกเกย์ในสหรัฐเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในช่วงทศวรรษที่ 1970 ตามจำนวนที่เพิ่มขึ้นของโรงภาพยนตร์ลามกในสหรัฐ โดยการถ่ายทำส่วนใหญ่จะเป็นในสถานที่ที่ผู้ชายสามารถที่จะมีกิจกรรมทางเพศกับผู้ชายได้ ทั้งนี้เนื้อหาของภาพยนตร์จะเป็นสถานการณ์จำลองในสถานที่ต่าง ๆ เช่น โรงอาบน้ำเกย์, เซ็กซ์คลับ หรือ ชายหาด เป็นต้น

นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1970 ถึง ทศวรรษที่ 1980 วงการภาพยนตร์ลามกเกย์ถือเป็นอุตสาหกรรมภาพยนตร์ขนาดใหญ่ในสหรัฐ และเริ่มมีการคัดเลือกนักแสดงอย่างจริงจังมากขึ้นโดยส่วนใหญ่ค่ายภาพยนตร์จะคัดเลือกในกลุ่มชายรักร่วมเพศก่อนแต่ก็มีชายรักร่วมเพศน้อยคนมากที่จะหันมาเล่นภาพยนตร์ลามกเกย์ในยุคนั้นเนื่องจากความเกรงกลัวที่จะถูกสังคมประณามและเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผย

ในช่วงทศวรรษที่ 1980 ภาพยนตร์ลามกเกย์ได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบมาเป็นวิดีโอคาสเซ็ตมากขึ้นและจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเอชไอวีและโรคเอดส์ทำให้กิจกรรมทางเพศในพื้นที่สาธารณะนั้นได้รับความนิยมลดลงเป็นอย่างมากจากทั้งหมดทำให้โรงภาพยนตร์ลามกเสื่อมความนิยมอย่างรวดเร็ว โดยจากสถานการณ์ดังกล่าวก็ทำให้ภาพยนตร์ลามกมีต้นทุนที่ต่ำลงรวมทั้งราคาขายซึ่งก็สามารถที่จะเข้าถึงกลุ่มคนดูได้อย่างแพร่หลายในสหรัฐ โดยภาพยนตร์ลามกเกย์ในสหรัฐนั้นไม่มีแค่เพียงกลุ่มชายรักร่วมเพศในอุตสาหกรรมเท่านั้นแต่มีกลุ่มชายรักต่างเพศร่วมด้วย โดย Chi Chi Larue ผู้กำกับภาพยนตร์ลามกเกย์ในยุคนั้นได้ออกมาเปิดเผยว่าผู้ชายที่แสดงในภาพยนตร์ลามกเกย์ร้อยละ 60 จะเป็นกลุ่มชายรักต่างเพศหรือเกย์-ฟอร์-เพย์ ซึ่งประเด็นนี้ก็ถือเป็นประเด็นที่ยังมีการถกเถียงกัน

ต่อมาในช่วงทศวรรษที่ 1990 อุตสาหกรรมภาพยนตร์ลามกเกย์ได้เริ่มมีความหลากหลายในตัวสื่อมากขึ้น โดย Kristen Bjorn ก็ถือเป็นผู้กำกับภาพยนตร์ลามกเกย์ที่ยกระดับทั้งคุณภาพของวิดีโอ, การดูแลนักแสดง และเทคนิคการถ่ายทำให้มีคุณภาพมากขึ้น โดยทั้งหมดก็ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์ลามกเกย์ในสหรัฐมีการแข่งขันที่ถูกมากขึ้น ทั้งนี้ในความหลากหลายก็เกิดกลุ่มตลาดเฉพาะขึ้นในวงการภาพยนตร์ลามกเกย์เป็นอย่างมาก เช่น ภาพยนตร์ลามกเกย์ในลักษณะของผู้ชายตามชาติพันธุ์, ผู้ชายข้ามเพศ, ผู้ชายในเครื่องแบบ หรือในลักษณะ BDSM

นักแสดงในวงการภาพยนตร์ลามกเกย์ของสหรัฐช่วงศตวรรษที่ 21

และช่วงศตวรรษที่ 21 เป็นต้นมาวงการภาพยนตร์ลามกเกย์ถือเป็นหนึ่งอุตสาหกรรมบันเทิงที่มีผลตอบแทนสูงสุดอีกหนึ่งอุตสาหกรรมโดยจะเห็นได้จากการทำภาพยนตร์ลามกเกย์ได้นำผู้ชายรักต่างเพศมาแสดงโดยเฉพาะ อาทิ Sean Cody, Active Duty หรือ Bel Ami จากความหลากหลายของวงการทำให้ภาพยนตร์ลามเกย์ได้มีการแพร่หลายและทำการตลาดในอินเทอร์เน็ตมากขึ้น

สื่อลามกเกย์ในไทย

สำหรับประเทศไทยนั้นก็ผลิตและเผยแพร่สื่อลามกอนาจารยังถือเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตามสื่อลามกอนาจารเกย์ในประเทศไทยเริ่มมีอย่างแพร่หลายในช่วงทศวรรษที่ 1980 จากการที่นิตยสารมิถุนาได้เริ่มปรากฏขึ้นโดยเนื้อหานิตยสารในช่วงแรกจะมีทั้งรูปภาพผู้ชายและผู้หญิงในลักษณะเปลือยกายประกอบด้วย ก่อนที่ภายหลังจะมีแต่รูปภาพผู้ชายแต่เพียงอย่างเดียวจากการที่สำนักพิมพ์ได้ทำการสำรวจกลุ่มลูกค้าแล้วพบว่าโดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ชายที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งนี้ทางสำนักพิมพ์ก็ได้มีนิตยสารมิถุนา จูเนียร์ออกมาเพื่อในสะดวกต่อการจัดเก็บมากขึ้นต่อผู้คน ในราคา 30 บาท จากกระแสของนิตยสารมิถุนาทำให้ในช่วงนั้นได้มีนิตยสารภาพผู้ชายในประเทศไทยอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น นิตยสารนีออน, นิตยสารมรกต, นิตยสารมิดเวย์ เป็นต้น

ทั้งนี้นอกจากรูปแบบนิตยสารแล้วสื่อลามกอนาจารเกย์ในประเทศไทยในยุคนั้นยังมีส่งรูปภาพโป๊ปลือยของผู้ชายผ่านจากไปรษณีย์ราวละ 5 ถึง 6 รูปภาพ ในราคาประมาณ 100 บาท ซึ่งโดยส่วนใหญ่รูปภาพดังกล่าวจะเป็นรูปภาพเบื้องหลังของนายแบบในนิตยสารในแต่ละฉบับ ซึ่งนิตยสารเหล่านี้โดยส่วนใหญ่จะถูกตั้งขายแบบซุกซ่อนเพื่อไม่ให้คนเห็น ต่อมานิตยสารภาพผู้ชายได้มีการปรับราคาที่สูงมากขึ้นจากปัจจัยต่างๆทำให้นิตยสารภาพผู้ชายในประเทศไทยทยอยหายไปในที่สุด

ในปัจจุบันจากการที่อินเทอร์เน็ตสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นทำให้รูปแบบสื่อลามกอนาจารเกย์ในประเทศไทยทั้งในรูปแบบรูปภาพหรือวิดีโอได้ถูกเผยแพร่ไปยังอินเทอร์เน็ตซึ่งผู้ที่ทำการลงสื่อเหล่านี้ของตนเองมักจะถูกนิยามว่า “แอคเค่อ”

เพศศึกษา

จากการศึกษาพบว่าสื่อลามกอนาจารอาจจะเป็นสื่อในการเรียนรู้เกี่ยวกับในเรื่องเพศศึกษาและความสัมพันธ์ ในกรณีที่บางคนไม่สามารถเรียนรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันทั้งจากในโรงเรียน, ครอบครัว, เพื่อน หรือ สังคมรอบข้าง เป็นต้น สื่อลามกเกย์ซึ่งเป็นสื่อที่แสดงพฤติกรรมทางเพศระหว่างผู้ชายกับผู้ชายอาจจะสื่อหลักในการเรียนรู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันซึ่งเป็นประเด็นที่นอกเหนือจากจุดประสงค์หลักคือการให้ผู้รับชมเกิดอารมณ์ทางเพศ โดยมุมมองบางส่วนได้มีความคิดเห็นว่าสื่อลามกเกย์ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างแท้จริง แต่ทั้งนี้ก็มีผลการศึกษาออกมาว่าสื่อลามกเกย์แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ทั้งในด้านร่างกายและคำพูด

เกย์-ฟอร์-เพย์

ดูเพิ่มที่: เกย์-ฟอร์-เพย์

เกย์-ฟอร์-เพย์ (อังกฤษ: Gay-for-pay) ในปัจจุบันประเด็นเกย์ฟอร์เพย์ถือเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงเป็นอย่างมากแม้กระทั่งกลุ่มของชายรักร่วมเพศ Escoffier ได้ออกมานิยามเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนี้ว่าตราบใดที่นักแสดงผู้ชายรักต่างเพศสามารถมีอารมณ์ทางเพศและถึงจุดสุดยอดพฤติกรรมเหล่านี้ถือเป็นพฤติกรรมรักร่วมเพศและถือเป็นภาพยนตร์ลามกและภาพยนตร์ลามกเกย์อย่างแท้จริง ขณะที่ Simon และ Gagnon จะมีความคิดเกี่ยวกับประเด็นต่างออกไปจากการศึกษาบทละครในเรื่องจะพบว่านักแสดงจะแค่แสดงไปตามบทละครที่ได้รับมอบหมายและแสดงพฤติกรรมทางเพศตามที่ตนเองได้เรียนรู้มา ดังนั้นจึงไม่มีภาพยนตร์ลามกใดเป็นภาพยนตร์ลามกอย่างแท้จริง

จากคำว่า “เกย์ฟอร์เพย์” ถือเป็นคำนิยามของผู้ชายรักต่างเพศที่ต้องการเข้ามาในอุตสาหกรรมนี้เพื่อแรงจูงใจทางด้านการเงินเท่านั้น ซึ่ง Escoffier มองว่าการนิยามดังกล่าวเป็นการนิยามที่ไม่เหมาะสม โดยเหตุผลในการเข้าวงการภาพยนตร์ลามกเกย์ของพวกเขาอาจจะเป็นเหตุผลอื่นซึ่งนอกอื่นจากเหตุผลทางด้านการเงิน ทั้งเหตุผลทางด้านความอยากรู้อยากเห็นหรือเหตุผลการที่พวกเขากำลังค้นหาตัวเอง เป็นต้น

ในบรรดานักแสดงชายรักต่างเพศในวงการนี้จะมีความพึงพอใจในบทบาทของการเป็นฝ่ายรุกและฝ่ายรับที่แตกต่างกันออกไป โดยเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะเข้าสู่วงการนี้จากการเล่นเป็นฝ่ายรุกก่อนที่จะเริ่มเป็นฝ่ายรับจากกระแสตอบรับของแฟนคลับหรือค่ายภาพยนตร์ได้ยื่นคำเสนอมาให้ เกย์ฟอร์เพย์โดยส่วนใหญ่จะมีความพึงพอใจกับการเป็นฝ่ายรุกมากกว่าจากพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นถึง “ความเป็นเกย์ที่น้อยกว่า” เนื่องจากพฤติกรรมในการร่วมเพศมีความคล้ายคลึงกับพฤติกรรมการร่วมเพศของรักต่างเพศ แต่ในขณะเดียวกันก็มีเกย์ฟอร์เพย์บางส่วนที่เลือกจะเป็นฝ่ายรับจากเหตุผลที่ว่าพวกเขาสามารถทำมันได้และอวัยวะเพศของพวกเขาไม่จำเป็นต้องแข็งตัวอยู่ตลอดเวลา จากเหตุผลทั้งหมดเป็นการแสดงให้เห็นถึงการที่พวกเขาพยายามจะทำให้ตนเองรู้สึกถึง “ความเป็นเกย์ที่น้อยกว่า” ในขณะที่ร่วมฉากกับผู้ชายอีกฝ่าย

และถึงแม้ว่าพวกเขาจะทำงานในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ลามกเกย์แต่ก็ยังมีนักแสดงผู้ชายรักต่างเพศบางรายที่มีจุดยืนต่อต้านเพศทางเลือกในสังคมและทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงานเป็นอย่างมากในแต่ละครั้ง ซึ่งนักแสดงภาพยนตร์ลามกเกย์ที่เป็นผู้ชายเพศทางเลือกบางคนมักจะรู้สึกมีความหนักใจเมื่อจะแสดงร่วมกับนักแสดงชายรักต่างเพศเนื่องจากขาดอารมณ์ร่วมระหว่างกันและกัน Tommy Cruise นักแสดงภาพยนตร์ลามกเกย์ซึ่งมีรสนิยมทางเพศเป็นไบเซ็กชวลได้ออกมาเปิดเผยว่า “มีผู้ชายรักต่างเพศหลายคนในวงการนี้ที่ไม่อยากจะให้ผมแตะเนื้อต้องตัวพวกเขา ซึ่งผมก็มีความรู้สึกว่าถ้าแบบนี้พวกคุณจะเข้ามาในวงการนี้ทำไม?” แต่ในขณะเดียวกันนักแสดงภาพยนตร์ลามกเกย์ที่เป็นผู้ชายที่มีความหลากหลายทางเพศก็รู้สึกสนุกกับการร่วมงานกับผู้ชายรักต่างเพศ อาทิ Buddy Jones ซึ่งเขาก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าตราบใดที่การมีเพศสัมพันธ์ออกมาดี มันก็ไม่จำเป็นต้องสนใจว่าพวกเขาเป็นอะไร

แบร์แบ็ก

การแบร์แบ็ก (อังกฤษ: Bareback) คือการร่วมเพศทางทวารหนักโดยไม่สวมใส่ถุงยางอนามัยป้องกัน ในช่วงทศวรรษที่ 1970 และ 1980 จากการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ ทำให้ผู้กำกับภาพยนตร์ลามกเกย์หลายค่ายหันมาให้นักแสดงสวมใส่ถุงอนามัยในขณะที่ร่วมเพศมากขึ้นเพื่อสุขภาพของตัวนักแสดงและเป็นตัวอย่างให้กับผู้รับชมในการปฏิบัติ โดยในช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 นั้นภาพยนตร์ลามกเกย์เริ่มมีการให้นักแสดงสวมใส่ถุงยางอนามัยในขณะร่วมฉากเป็นส่วนใหญ่ แต่ทั้งนี้ค่ายภาพยนตร์บางส่วนก็ยังไม่มีการให้นักแสดงสวมถุงยางอนามัยขณะร่วมเพศ อาทิ ค่าย Treasure Island ที่ได้มีการให้นักแสดงมีเพศสัมพันธ์แบบแบร์แบ็กตั้งแต่ปีค.ศ.1999 หรือค่ายภาพยนตร์ลามกเกย์ขนาดใหญ่อย่าง Kristen Bjorn Productions ก็ได้มีการให้นักแสดงมีเพศสัมพันธ์แบบแบร์แบ็กเฉพาะกับคู่นักแสดงที่กำลังคบหาดูใจในชีวิตจริง ส่วนค่ายภาพยนตร์อื่นๆอย่าง Falcon Entertainment ก็ได้มีการนำภาพยนตร์ที่มีการมีเพศสัมพันธ์แบบแบร์แบ็กก่อนน่านั้นมาออกใหม่ ซึ่งค่ายภาพยนตร์ลามกเกย์บางค่ายจะนิยมใช้เทคนิกการตัดต่อไม่ให้เห็นถุงยางอนามัยและทำเหมือนเป็นการมีเพศสัมพันธ์แบบแบร์แบ็ก ซึ่งความเป็นจริงคือนักแสดงได้มีการป้องกันและสวมใส่ถุงอนามัยขณะร่วมเพศ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีบางค่ายที่ใช้วิธีนี้แต่นำเสนอการมีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันในรูปแบบอื่น เช่น การถ่ายไปที่กล่องถุงยางอนามัยด้วย เป็นต้น

นักวิชาการบางส่วนได้ลงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวนี้ว่าแม้ว่าคำว่า “แบร์แบ็ก” กับ “ยูเอไอ (UAI)” จะมีความหมายที่ตรงกันแต่แฝงไว้ด้วยความแตกต่าง โดยคำว่า “แบร์แบ็ก” ซึ่งแปลว่าเปลือยเปล่าได้ถูกนำมาใช้มากขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการตลาด โดยเหตุผลก็เพราะว่า “ยูเอไอ (UAI)” หรือ “Unprotected Anal Intercourse” ซึ่งแปลว่าการมีเพศสัมพันธ์ทางรูทวารหนักโดยไม่มีการป้องกัน จากคำดังกล่าวอาจจะทำให้ผู้อ่านนึกถึงการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกันซึ่งมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อผ่านการมีเพศสัมพันธ์ได้ และทำให้วงการภาพยนตร์ลามกเกย์ไม่นิยมใช้คำดังกล่าวในการนิยาม อย่างไรก็ตามแม้ว่าคำว่า “แบร์แบ็ก” จะถูกใช้อย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ลามกเกย์แต่จากผลการศึกษาพบว่าทั้ง 2 คำให้ความรู้สึกในเชิงลบต่อผู้ที่ทำการทดลองเหมือนกัน

ผู้รับชม

ในเดือนสิงหาคม ค.ศ.2005 เจนนา เจมสัน ได้ทำการเปิดตัวเว็บไซต์ "Club Thrust" ซึ่งเนื้อหาภายในเว็บไซต์ได้มีสื่อเกี่ยวกับภาพยนตร์ลามกเกย์ประกอบด้วย จากทั้งหมดทำให้เห็นว่ากลุ่มผู้หญิงก็มีความสนใจในภาพยนตร์ลามกเกย์ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ผู้หญิงที่มีรสนิยมทางเพศทั้งในรูปแบบรักร่วมเพศ และรักร่วมสองเพศ บางส่วนก็มีความชื่นชอบสื่อลามกเกย์โดยเฉพาะแนวยะโอะอิ และจากสถิติของนิตยสาร Mother Jones พบว่าประเทศปากีสถานเป็นประเทศที่มีการค้นหาเกี่ยวกับภาพยนตร์ลามกเกย์เยอะมากที่สุดในโลก

ดูเพิ่มเติม


Новое сообщение