Продолжая использовать сайт, вы даете свое согласие на работу с этими файлами.
โรคหืด
โรคหืด (Asthma) | |
---|---|
อุปกรณ์ทดสอบสมรรถภาพปอด ใช้สำหรับตรวจวัดอัตราลมหายใจออกสูงสุด มีความสำคัญทั้งในการติดตามและการวินิจฉัยโรคหืด | |
สาขาวิชา | วิทยาปอด |
อาการ | หายใจมีเสียงหวีดซ้ำเป็นชุด, ไอ, แน่นหน้าอก, หายใจไม่อิ่ม |
ระยะดำเนินโรค | ระยะยาว |
สาเหตุ | พันธุกรรม และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม |
ปัจจัยเสี่ยง | มลภาวะทางอากาศ, สารก่อภูมิแพ้ |
วิธีวินิจฉัย | ขึ้นอยู่กับอาการ, การตอบสนองต่อการบำบัด, ตรวจด้วยสไปโรมิเตอร์ |
การรักษา | หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น, คอร์ติโคสเตอรอยด์ชนิดสูดพ่น, ซัลบูทามอล |
ความชุก | 358 ล้านคน (ค.ศ. 2015) |
การเสียชีวิต | 397,100 คน (ค.ศ. 2015) |
โรคหืด (อังกฤษ: asthma) หรือ โรคหอบหืด เป็นโรคการอักเสบเรื้อรังของทางเดินอากาศหายใจที่พบบ่อย ลักษณะคือ มีอาการหลายอย่างแบบเป็นซ้ำ มีการอุดกั้นทางเดินอากาศหายใจและหลอดลมหดเกร็งแบบย้อนกลับได้ อาการทั่วไปมีเสียงหวีด ไอ แน่นหน้าอกและหายใจกระชั้น
เชื่อว่าโรคหืดเกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมผสมกัน การวินิจฉัยโดยปกติอาศัยรูปแบบของอาการ การตอบสนองต่อการรักษาตามเวลาและการวัดปริมาตรอากาศหายใจ (spirometry) ในทางคลินิก จำแนกตามความถี่ของอาการ ปริมาตรการหายใจออกเบ่งใน 1 วินาที (FEV1) และอัตราการไหลของการหายใจออกสูงสุด (peak expiratory flow rate) โรคหืดยังอาจจำแนกเป็นแบบภูมิแพ้กรรมพันธุ์ (atopic) หรือภายนอก (extrinsic) หรือไม่ใช่ภูมิแพ้กรรมพันธุ์ (non-atopic) หรือภายใน (intrinsic) โดยภูมิแพ้กรรมพันธุ์หมายถึงความไวแฝงรับโรค (predisposition) ต่อการเกิดปฏิกิริยาไวเกินชนิดที่ 1
เสียงหวีดที่ได้ยินทางหูฟังทางการแพทย์
|
|
หากมีปัญหาในการเล่นไฟล์นี้ ดูที่ วิธีใช้สื่อ |
การรักษาอาการเฉียบพลันโดยปกติใช้ตัวทำการบีตา-2 ที่ออกฤทธิ์สั้นแบบสูด (inhaled short-acting beta-2 agonist) เช่น ซัลบูทามอล เพื่อให้มีฤทธิ์ขยายหลอดลม และคอร์ติโคสเตอรอยด์ทางปาก ในผู้ป่วยที่อาการรุนแรงมาก อาจต้องใช้คอร์ติโคสเตอรอยด์ แมกนีเซียมซัลเฟตทางหลอดเลือดดำ และให้เข้ารักษาในโรงพยาบาล อาการสามารถป้องกันได้โดยการเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น สารก่อภูมิแพ้และยาระคาย และโดยการใช้คอร์ติโคสเตอรอยด์แบบสูด ตัวทำการบีตาที่ออกฤทธิ์ยาว (LABA) หรือสารต้านลิวโคไตรอีน (antileukotriene) อาจใช้เพิ่มเติมจากคอร์ติโคสเตอรอยด์แบบสูดหากยังควบคุมอาการโรคหืดไม่ได้
การเกิดโรคหืดเพิ่มขึ้นอย่างสำคัญนับแต่คริสต์ทศวรรษ 1970 ในปี พ.ศ. 2554 มีผู้ได้รับวินิจฉัยเป็นโรคหืดทั่วโลก 235–300 ล้านคน และเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 250,000 คน ส่วนใหญ่เป็นคนในประเทศกำลังพัฒนา ผู้ป่วยส่วนใหญ่เริ่มมีอาการตั้งแต่วัยเด็ก ประวัติศาสตร์ของโรคหืดมีย้อนไปถึงสมัยอียิปต์โบราณ
การรักษา
การใช้ยา
ยาที่ใช้รักษาโรคหืดแบ่งออกเป็นสองกลุ่มหลักๆ ได้แก่ ยาสำหรับบรรเทาอาการเมื่อมีอาการกำเริบ และ ยาสำหรับควบคุมอาการในระยะยาวเพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการกำเริบ โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีการใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับรักษาผู้ป่วยโรคหืดที่มีอาการกำเริบเฉียบพลัน เว้นแต่มีข้อบ่งชี้อื่น
พยากรณ์โรค
ผู้ป่วยโรคหืดโดยทั่วไปแล้วจะมีพยากรณ์โรคที่ดี โดยเฉพาะผู้ป่วยเด็กที่มีอาการเล็กน้อย อัตราการเสียชีวิตลดลงอย่างมากในช่วง 20-30 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยครอบคลุมมากขึ้น และการรักษาพัฒนามากขึ้น ใน ค.ศ. 2010 อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคหืดอยู่ที่ 170 ในล้าน สำหรับผู้ป่วยชาย และ 90 ในล้าน สำหรับผู้ป่วยหญิง อย่างไรก็ดีอัตราการเสียชีวิตในแต่ละประเทศยังแตกต่างกันมาก โดยอาจแตกต่างกันได้ถึงราว 100 เท่า
บรรณานุกรม
- "British Guideline on the Management of Asthma" (PDF). British Thoracic Society. 2012 [2008]. SIGN 101. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิม (PDF)เมื่อ 19 สิงหาคม 2008. สืบค้นเมื่อ 4 สิงหาคม 2008.
- "Global Strategy for Asthma Management and Prevention" (PDF). Global Initiative for Asthma. 2011. Archived Reports.
- National Asthma Education and Prevention Program (2007). "Guidelines for the Diagnosis and Management of Asthma". National Heart Lung and Blood Institute. EPR-3.
แหล่งข้อมูลอื่น
วิกิพจนานุกรม มีความหมายของคำว่า หืด |
- วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ โรคหืด
- วิกิคำคมภาษาอิตาลี มีคำกล่าวเกี่ยวกับ Asma
- โรคหืด ที่เว็บไซต์ Curlie
การจำแนกโรค | |
---|---|
ทรัพยากรภายนอก |
หอสมุดแห่งชาติ | |
---|---|
อื่น ๆ |